เมื่อพูดถึงทำเลนวลจันทร์-รามอินทรา หลายคนอาจรู้สึกว่าไกล แต่นวลจันทร์ในวันนี้บอกเลยว่าเป็นทำเลที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะอยู่อาศัย-ทำธุรกิจ-หรือลงทุน เพราะด้วยที่ตั้งของโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก เชื่อมต่อเข้าสู่เอกมัย-ทองหล่อ และ CBD ได้อย่างรวดเร็ว อุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับในพื้นที่เองก็กลายเป็นทำเลทองของโฮมออฟฟิศที่ผุดขึ้นทั่วไปจากการขยายตัวจากโซน CBD ทำให้นวลจันทร์-รามอินทรา ยกระดับเป็นทำเลที่น่าสนใจในการใช้ชีวิต

หนึ่งในโครงการที่น่าสนใจบนทำเลนี้ คงไม่พ้น Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) คอนโดใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัว ด้วยเป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น 2 อาคาร เน้นความ Modern Minimal แต่ส่วนกลางก็ยังให้จัดเต็มไม่แพ้คอนโดไฮไรส์ ตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล-สีเทา ที่จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทาง ช่วยให้ชีวิตของคุณมีเวลาเหลือๆ ออกไปใช้ชีวิตได้สุดในทุกทางอย่างที่ชอบ


นวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา เชื่อมต่อใจกลางเมืองบนเส้นทางที่หลากหลาย

สำหรับทำเล ‘นวลจันทร์’ เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกติดปากว่าถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ความเป็นถนนเส้นรองจึงเหมาะกับคนที่ชอบการใช้ชีวิตที่ไม่ได้พลุกพล่านมากนักเมื่อเทียบกับถนนเส้นหลัก แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นโลเคชั่นที่เดินทางสะดวกสบายไม่แพ้ถนนเส้นหลัก เพราะยังสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว จากการเชื่อมต่อถนนสายสำคัญหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 9, ถนนลาดพร้าว, ถนนรามคำแหง ไปจนถึงใจกลางถนนสุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัย ภายในเวลาไม่กี่นาที ด้วยการผ่านเส้นถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือจะขึ้นทางด่วนพิเศษฉลองรัช

จะออกไปยังรามอินทรา หรือออกนอกเมืองก็สะดวก เพราะบนถนนนวลจันทร์มีถนนตัดใหม่อย่างถนนรัชดา-รามอินทราที่ทำให้สามารถลัดเข้าสู่ถนนรามอินทรา, ถนนนวมินทร์ และตัดเข้าสู่วงแหวนรอบนอก (ตะวันออก)  ทำให้การเดินทางข้ามไปฝั่งบางนาหรือไปยังจังหวัดข้างเคียงอย่างสมุทรปราการ, บางปะอินอยุธยา กลายเป็นเรื่องง่ายดาย

ไม่เพียงความสะดวกสบายเรื่องถนนหนทางที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง เชื่อมการเดินทางทั้งการเข้าเมือง-ออกนอกเมืองเท่านั้น ตัวทำเลนวลจันทร์ เอกมัย-รามอินทรา ยังล้อมรอบด้วยการเดินทางระบบรางที่มีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่

  • รถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่มีสถานีใกล้ที่สุดคือสถานีคู้บอน ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว ระยะทางรวมกว่า 34.5 กม. รวม 30 สถานี แนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ถนนสีหบุรานุกิจ สิ้นสุดที่สถานีมีนบุรี ถนนรามคำแหง มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย นั่นก็คือรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่, รถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และรถไฟฟ้าสายสีเทา ที่สถานีวัชรพล (โครงการในอนาคต)
  • รถไฟฟ้าสายสีเทา (โครงการในอนาคต) ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพลเชื่อมทองหล่อ รวมระยะทาง 16.3 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี โดยมีเส้นทางเริ่มต้นที่วัชรพล ที่มีจุดตัดกับ ถ.รามอินทรา มุ่งหน้ามาตามแนว ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ผ่านซอยนวลจันทร์ ข้ามสะพานเกษตรนวมินทร์, ถนนลาดพร้าว, ถนนพระราม 9, ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ถนนทองหล่อ มาบรรจบที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีทองหล่อ โดยรถไฟฟ้าสายสีเทาเป็นสายที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 5 สาย ทั้งสายสีชมพู, สายสีน้ำตาล, สายสีเหลือง, สายสีส้ม และสายสีเขียว
  • รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (คาดว่าจะเสร็จปี 2571) มีระยะทางรวม 22.1 กม. มี 20 สถานี โดยมีเส้นทางเริ่มต้นจากแยกแคราย (เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีชมพู) ไปตามแนวถนนงามวงศ์วาน (เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บริเวณสถานีบางเขน) ผ่านแยกเกษตร (เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม บริเวณสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ผ่านแยกฉลองรัช (เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา) ไปตามถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนนวมินทร์ และไปสิ้นสุดบริเวณถนนรามคำแหง (เชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีเหลือง บริเวณแยกลำสาลี)

ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ยังเป็นโครงการในอนาคตและเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสำคัญที่หลายคนต่างรอคอย เพราะสายหนึ่งวิ่งผ่านใจกลางทองหล่อ แถมทั้งสองสายก็ยังมีจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆ มากมาย ที่ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของเมืองสะดวกไปอีกขั้น    



ครบสิ่งอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ชีวิตเมืองที่ใช่

นอกจากระบบคมนาคมที่เชื่อมโยงเส้นทางได้หลากหลายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้บนทำเลนวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา คือ อยู่ในย่านของแหล่งจับจ่ายใช้สอย และแหล่งกิน ดื่ม เที่ยว ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งให้ทำเลนวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา เหมาะเป็นย่านของการอยู่อาศัย และดึงดูดให้เกิดโฮมออฟฟิศเข้ามาตั้งกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ เกิดเป็นดีมานด์ทำให้คอนโดในพื้นที่นี้เหมาะกับการปล่อยเช่า

ทั้งนี้แหล่งความสะดวกสบายของทำเลนวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา เรียกว่ามีครบจบทุกการใช้ชีวิต เพราะแวดล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ทุกระดับที่อุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่ร้านอาหารสแตนอโลนที่มีอยู่เรียงราย หรือตลาดสดที่มีอยู่ตามหัวถนนในดงนวลจันทร์ ชนิดที่ว่าไม่ต้องออกจากนวลจันทร์ก็สามารถตอบโจทย์อาหารการกินและการจับจ่ายใช้สอยในใช้ชีวิตประจำวันได้ครบ

หรือถ้าอยากไปช้อปปิ้งก็มีห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, ศูนย์การค้า, ร้านอาหาร, สปอร์ตคลับ และตลาดนัด ที่ตั้งอยู่รอบทำเลให้เลือกเดินไม่ซ้ำวัน ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล อีสต์ วิลล์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, เดอะวอลล์ เกษตร-นวมินทร์, ตลาดหัวมุม, แม็กซ์แวลู ปัฐวิกรณ์, ตลาดปัฐวิกรณ์, ตลาดนัดเลียบด่วน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนเลิศหล้า, โรงเรียนเบญจมินทร์, โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลอดจนโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่งทั้งรัฐและเอกชน อาทิ โรงพยาบาลนวราช, โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์, โรงพยาบาลอินทรารัตน์, โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ฯลฯ

จากปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายเหล่านี้ บวกกับการขยายตัวของเมืองที่มายังพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ และการมาถึงของรถไฟฟ้าหลายสายที่รายล้อมพื้นที่โดยรอบ ทั้งโครงการที่มาถึงแล้ว และโครงการในอนาคตบนทำเล นวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา ส่งผลให้มูลค่าที่ดินโดยรอบของทำเลนี้มีการขยับตัวสูงขึ้น เฉพาะทำเลรามอินทรามีการปรับตัวสูงขึ้น โดยจากราคาประเมินของกรมธนารักษ์รอบปี 2559-2562 อยู่ที่ 95,000-100,000 บาทต่อตารางวา แต่ในรอบปีประเมินใหม่ (2566-2569) ที่มีการบังคับใช้ ราคาเติบโตขึ้นถึง 125,000 บาทต่อตารางวา ส่วนราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ 250,000 บาทต่อตารางวา เรียกว่าสูงกว่าราคาประเมินเป็นเท่าตัว


ภาพรวมคอนโดในพื้นที่เลียบด่วนรามอินทรา

            จากปัจจัยเชิงบวกต่างๆ ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินทำเลถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มีอัตราการเติบโตประมาณ 3% โดยพื้นที่ดังกล่าวยังไม่ได้มีการปรับปรุงผังเมือง เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นน้อย และในอนาคตมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนเป็นผังสีส้ม ที่มีความหนาแน่นปานกลาง เนื่องจากมีจำนวนประชากรเข้ามาใช้ชีวิตในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น จากการขยายตัวของเมืองและประกอบกับมีรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ) เฟสแรกวิ่งผ่าน ทำให้เริ่มมีดีเวลลอปเปอร์หลายรายเข้าทำโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งการอยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า

จากสถานการณ์ของตลาดคอนโดมิเนียมเลียบด่วนรามอินทราและละแวกข้างเคียง ยังมีปริมาณ Supply ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นดีเวลลอปเปอร์รายกลางและรายเล็ก จนช่วง 5 ปีหลังจึงเริ่มมีแบรนด์ใหญ่เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แม้อัตราการเปิดตัวยังไม่สูง แต่มีมาอย่างต่อเนื่อง 1-2 โครงการต่อปี ส่วนใหญ่เน้นติดรถไฟฟ้า สะท้อนให้เห็นการเติบโตของพื้นที่และการอาศัยของผู้คนในพื้นที่ที่มีปริมาณมากขึ้น โดยเมื่อพิจารณาจากอัตราการปล่อยเช่าของคอนโดให้เช่าย่านรามอินทรา ย้อนหลังไปเมื่อปี 2562 ส่วนใหญ่จะนิยมห้อง 1 Bedroom และสตูดิโอ โดยมีกลุ่มผู้เช่าหลากหลาย ทั้งพนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ รวมถึงนิสิตนักศึกษา โดยในโซนนวลจันทร์ซึ่งมีความโดดเด่นตรงที่อยู่ใจกลางพื้นที่แหล่งงานขนาดย่อม ไม่ไกลจากย่าน CBD อย่างเอกมัย-สุขุมวิท เดินทางสะดวก อีกทั้งอยู่ในแหล่งของกินที่อุดมสมบูรณ์ เรียกว่าจะหันไปทางไหนก็ง่ายต่อการใช้ชีวิต ทำให้เป็นอีกทำเลที่สามารถปล่อยเช่าได้ราคาสูงถึง 8,500-10,000 บาท 


Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra ให้คุณใช้ชีวิตที่ใช่ อยู่เองก็สบาย ปล่อยเช่ามีแนวโน้มเติบโต

            ด้วยศักยภาพของทำเลนวลจันทร์-เอกมัย-รามอินทรา ที่มีครบสำหรับการใช้ชีวิตเมือง Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) จึงเป็นโครงการหนึ่งที่มาปักหมุดบนทำเลนี้ โครงการตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ซอย 16 ที่สามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ ถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอก รวมไปถึงใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย (ทั้งสายสีน้ำตาลและสายสีเทา) เพียง 500 เมตรจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีนวลจันทร์ (โครงการในอนาคต) , 2.3 กม.จากรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีคลองลำเจียก (โครงการในอนาคต) เรียกว่าเป็นทำเลที่อยู่เองก็ดี-ปล่อยเช่าก็ง่าย อัตรา Rental Yield ของโครงการสูงถึง 5% กว่าเลยทีเดียว

โครงการมีความโดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ที่มอบความสะดวกสบาย ในรูปแบบคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น 2 อาคาร ออกแบบด้วยแนวคิด Simple White สไตล์ Modern Minimal ที่เห็นได้จากมุมต่างๆทั่วทั้งโครงการ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ให้คุณใช้ชีวิตได้สุดทุกทาง ให้ชีวิตรู้สึก Good Vibes ได้ทุกวัน พร้อมมาตรฐานความปลอดภัย (Security Vibes) 5 ขั้นตอน ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, Access Control, Lift Lock Floor, CCTV, Digital Door Lock

นอกจากนี้ยังจัดเต็มส่วนกลางมากกว่า 14 รายการ เรียกได้ว่าไม่น้อยกว่าคอนโดไฮไรส์เลย ซึ่งส่วนกลางแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

  • Hallmark Vibes Zone ได้แก่ Hallmark Pavillion, Lobby&Mail Room, Co-Working Space, Private Meeting Room, Creative Pod (Live&Streaming Room)
  • Convenient Vibes Zone ได้แก่ Vending Machine Area, Grab&Get Delivery Area, Laundry, EV Charger

  • Active Vibes Zone ได้แก่ Fitness Pool View, Terrace Lounge, Vacation Pool, Play Yard, Jogging Track

ด้วยตัวโครงการแวดล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มอลล์หลากหลาย และอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิ 500 เมตรจากโรงพยาบาลนวราช, 4.5 กม.จากโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา, 2.8 กม.จากโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ อีกทั้งยังอยู่ใจกลางย่านโฮมออฟฟิศขนาดเล็กและขนาดกลางมากมาย บวกกับคอนเซ็ปต์การออกแบบของตัวโครงการ ทำให้ Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยเพื่อเป็นบ้านหลังแรกที่ผู้อยู่อาศัยต้องการผ่อนคลายหลังเลิกงาน ชอบพื้นที่เป็นส่วนตัว และรักการใช้ชีวิตเมืองสะดวกสบาย

ขณะเดียวกันก็เหมาะสำหรับลงทุนเพื่อการปล่อยเช่าด้วย เพราะมีดีมานด์ผู้เช่าที่ชัดเจนอย่างกลุ่มคนทำงานในพื้นที่, เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และกลุ่มคนทำงานที่ทำงานในย่านทองหล่อ-เอกมัย-สุขุมวิท-พระราม 9 ที่ต้องการความสงบไม่พลุกพล่านและมองหาค่าเช่าไม่แรงเท่ากับพื้นที่ใจ กลาง CBD หรือถ้าใครที่เคยเช่าอยู่แล้ว แต่ต้องการสินทรัพย์หลังแรกเป็นของตัวเองโครงการ Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra ก็เหมาะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตเมื่อเทียบกับการอยู่ใจกลาง CBD แถมได้ชีวิตที่เงียบสงบกว่า

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3xpszAs