หากจะมองหาคอนโดมิเนียมที่มีครบทุกปัจจัยของ ‘ความน่าอยู่อาศัย’ และ  ‘ศักยภาพในการลงทุนทั้งในเรื่องของ การออกแบบ (Design factor), คุณภาพโครงการ (Physical factor) และทำเลที่ตั้ง (Location) เราเชื่อว่า 28 Chidlom สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะปัจจัยในด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นมูลค่าที่ติดตัวโครงการที่ไม่มีใครมาทดแทนได้ตลอดกาล

 

28 Chidlom บนทำเลแห่ง World Class Destination ของกรุงเทพ

หากแบ่งลักษณะของ CBD ในกรุงเทพ จะสามารถแบ่งลักษณะของย่านได้เป็น ย่าน CBD ของแหล่งงาน อย่าง สีลม สาทร อโศก, ย่าน CBD ของแหล่งไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัย อย่าง ทำเลสุขุมวิทและทองหล่อ และ ย่าน CBD ของแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งงาน อย่าง เพลินจิต ชิดลม หลังสวน วิทยุ ซึ่ง 28 Chidlom ตั้งอยู่ในทำเลนี้

ทำไม TERRABKK ถึงบอกว่าการเป็นย่าน CBD ของแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งงานในทำเลชิดลม สามารถตอบโจทย์ความเป็น Rare Item และ Prime Area ได้? นั่นก็เพราะว่าองค์ประกอบภายในทำเลชิดลม - หลังสวน เป็นทำเลรายล้อมไปด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งดึงดูด Demand คุณภาพ และมีการเติบโตของราคาที่ดินสูง ได้แก่

  • ศูนย์การค้าชั้นนำ

        ศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ในทำเลชิดลมล้วนเป็นศูนย์การค้าระดับ High-End ตั้งแต่อดีต ทั้งการเป็นที่ตั้งของ Central Chidlom ศูนย์การค้าระดับ Flagship Store แห่งแรกของเซ็นทรัลในปี 2517 จนในปัจจุบันก็ยังเป็นทำเลแห่งศูนย์การค้าระดับ Flagship ที่เป็น World Class Destination ไม่ว่าจะเป็น Central World, Gaysorn Village, Central Embassy และ Central Embassy เฟส 2

  • อาคารสำนักงานชั้นนำ

        ชิดลมเป็นทำเลใจกลางย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานเกรดเอหลายแห่ง เป็นที่ตั้งของบริษัทต่างชาติที่เต็มไปด้วยดีมานด์คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น The Office at Central World, Vanissa Building, All Seasons Place, One City Center และอาคารสำนักงานที่เคยผลักกันสร้าง New High อาคารสำนักงานที่มีค่าเช่าสูงที่สุดของกรุงเทพ อย่าง Park Ventures และ Gaysorn Tower

  • โรงแรมชั้นนำ

        ด้วยการเป็นศูนย์กลางของทั้งแหล่งงานและไลฟ์สไตล์ ทำให้เกิดการเข้ามาของโรงแรมหรู ที่เข้ามารองรับความต้องการของผู้มาติดต่อธุรกิจและท่องเที่ยว โดยล้วนแล้วแต่เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็น Grand Hyatt Erawan, Renaissance, Rosewood Bangkok. Novotel Bangkok Ploenchit, Oriental Residence Bangkok, Hotel Indigo The Bangkok, The Athenee Hotel, The Okura Prestige, InterContinental Bangkok และ Park Hyatt Bangkok

  • สถานที่สำคัญหลายแห่ง

        ชิดลม - เพลินจิต - วิทยุ ยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาและสถานทูตหลายแห่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยกระดับทำเล ได้แก่ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย, Mulberry House International Pre-School, สถานทูตสหรัฐอเมริกา, สถานทูตนิวซีแลนด์และอีกหลายแห่ง รวมถึง BDMS Wellness Clinic ซึ่งเป็น Wellness Center ระดับโลกอีกด้วย

 

‘ชิดลม’ ทำเลที่มีมูลค่าที่ดินแพงที่สุดและเติบโตมากที่สุด

ความเป็น Super Prime Area ของ 28 Chidlom ยังถูกตอกย้ำด้วยราคาที่ดินซื้อขายจริงในตลาด ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ New High ของราคาที่ดินที่สูงที่สุดในปี 2558 ด้วยราคาซื้อขายถึง 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา

หลังจากนั้นในอีก 2 ปีต่อมา ประวัติศาสตร์ราคาซื้อขายที่ดินราคาสูงที่สุดก็กลับมาสู่ทำเลชิดลมอีกครั้ง ด้วยราคาซื้อขายถึง 2.2 ล้านบาทต่อตารางวา จากดีลซื้อขายที่ดินสถานทูตอังกฤษโดยกลุ่มเซ็นทรัล และราคา 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา ที่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นโครงการ Scope Langsuan ก่อนจะถูกทุบสถิติราคาซื้อขายที่ดิน New High อีกครั้งในปี 2563 ซึ่งเป็นแปลงที่ดินติดถนนสารสิน ซึ่งมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา

ราคาซื้อขายที่ดินที่ผลัดกันสร้างสถิติ New High อย่างต่อเนื่องในทำเล สะท้อนถึงความเห็นพ้องต้องกันในด้านศักยภาพทำเล ของการเป็น Super Prime Area และการเป็น Super Luxury Residential District ที่จะเป็นมูลค่าติดตัวโครงการไปด้วยตลอดกาล

 

28 Chidlom คอนโด Rare Items หนึ่งเดียวบนถนนชิดลม

ด้วยความที่ชิดลมเป็น CBD ของแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งงาน ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยแหล่งธุรกิจและศูนย์การค้าชั้นนำ ที่ดินเปล่าในโซนนี้จึงค่อนข้างหาได้ยากแล้ว การพัฒนาคอนโดบนถนนชิดลมจึงมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมานานกว่า 13 ปี และ Sold out ไปหมดแล้ว 28 Chidlom จึงเป็นคอนโด Rare Items หนึ่งเดียวบนถนนชิดลม ที่ยังเปิดขายอยู่ ปัจจุบันราคาขาย เริ่มอยู่ที่ 290,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนราคาขายมือสอง Resale ของโครงการที่ขายหมดไปแล้วอยู่ที่ประมาณ 175,000-270,000 บาทต่อตารางเมตร Capital Gain ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3%-5% ต่อปี แล้วแต่ขนาดห้อง ซึ่งเป็นตัวเลขไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดอนาคตคงยากที่จะมีคอนโดใหม่เข้ามาใหม่ Supply คอนโดในทำเลนี้ค่อยๆ ลดลง อีกทั้งในอนาคตราคาขายคอนโดก็จะปรับเพิ่มสูงขึ้น โอกาสในการเป็นเจ้าของคอนโดในย่านนี้ก็จะยิ่งน้อยลง ซึ่งหากใครต้องการถือครองคอนโดบนถนนชิดลมนี้ ไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง ซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน ลงทุนปล่อยเช่าหรือรอขายในอนาคต 28 Chidlom นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ ในทำเลนี้

สำหรับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าของคอนโดย่านชิดลม สร้าง Rental Yield เฉลี่ย 4%-6.4% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว อัตราค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 530-980 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ค่าเช่าต่อเดือนขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของห้อง ห้องแบบ Studio ค่าเช่าอยู่ที่ 20,000-25,000 บาทต่อเดือน, 1 Bedroom ค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000-57,000 บาทต่อเดือน, 2 Bedroom ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 44,000-80,000 บาท และ 3 Bedroom อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 70,000-165,000 บาทต่อเดือน

กลุ่มผู้เช่าคอนโดในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจและชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ต่างชาติที่นิยมมาเช่าอยู่ในทำเลนี้ก็จะเป็นชาวยุโรป-อเมริกัน เพราะย่านนี้อยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญ เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ระดับ World Class อีกทั้งยังอยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้า BTS สายหลัก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรองรับการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้เช่าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

 

28 Chidlom กับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือระดับ

28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) โครงการคอนโดมิเนียมในกลุ่ม Limited Luxury Collection by SC ASSET บนทำเล The Rarest Location ที่ดินผืนสุดท้ายของถนนชิดลม โครงการขนาดพื้นที่ 3-0-24 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร อาคารด้านหน้าคือ The Villa ความสูง 20 ชั้น อาคารด้านหลังคือ The Tower ความสูง 47 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมดรวม 2 อาคาร 425 ยูนิต ความโดดเด่นของโครงการ 28 Chidlom คือ การออกแบบอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการออกแบบ Facade อาคารภายใต้คอนเซ็ปต์ “Jewel-box” หรือกล่องอัญมณี โดยนำรูปทรงสี่เหลี่ยมมาเรียงต่อกันให้ตัวอาคารดูมีมิติ เน้นหน้าต่างบานใหญ่เพื่อเพิ่มความ Luxury และเปิดทิวทัศน์ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมองเห็นวิวเมืองอย่างเต็มที่

28 Chidlom นับเป็นผลงานดีไซน์ระดับมาสเตอร์พีซจาก SC ASSET ออกแบบอาคารโดยบริษัท Kohn Pedersen Fox (KPF) สถาปนิกระดับโลกจากเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นที่ปรึกษาด้านงานออกแบบ โดยร่วมมือกับ บริษัท Design 103 International สถาปนิกหลักของโครงการ รวมถึง TROP บริษัทออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมระดับแนวหน้าของประเทศที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และอีกความร่วมมือจาก BREATHE ความร่วมมือกันในครั้งนี้ทำให้โครงการมีความสวยงามและโดดเด่น สมกับการเป็น Limited Luxury Collection Condominium ที่ควรค่าแก่การจับจอง

อีกทั้งยังออกแบบ Landscape ภายใต้คอนเซ็ปต์ “An Urban Oasis” โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ทำให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ปกคลุม 2 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นล่าง อีกทั้งยังออกแบบให้พื้นที่สีเขียวภายนอกและภายในอาคารเชื่อมต่อกัน (A Series of Courtyard) เป็นการเชื่อมต่อธรรมชาติกับผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว

อาคาร The Villa มีห้องให้เลือกหลายรูปแบบขนาดตั้งแต่ 37-75.38 ตร.ม. โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ที่ให้ฟังก์ชันการใช้งานครบและการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมภายในห้องที่สะท้อนเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย เป็นห้องหน้ากว้างที่มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน สามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตร ทุกรูปแบบจะเป็นครัวเปิดที่ไม่เน้นการทำอาหารหนักมากนัก พื้นที่ Living area จึงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีการลดขนาดของระเบียงเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนอาคาร The Tower ก็ยังคงแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเป็นสัดส่วนเช่นกัน แต่แปลนห้องของอาคารนี้จะเป็นห้องตอนลึก แบบ 1 ห้องนอนก็จะมีความพิเศษตรงที่โซน Living Area มีกระจกแบบ Bay Window ทำให้ห้องโปร่งโล่งและเปิดรับวิวได้มากขึ้น

สามารถเป็นเจ้าของ 28 Chidlom คอนโด Super Luxury บนทำเล Super Prime ได้แล้ววันนี้ 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท* ฟรี! เฟอร์นิเจอร์ครบ และ ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย* พร้อมการันตีผลตอบแทน 5%* นาน 2 ปี*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3A85Jwt หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 1749