การระบาดรอบ 2 ยังต้องเฝ้าดูว่าจะ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศญี่ปุ่น ที่รุนแรงมากกว่าครั้งที่ 1 และมีรอบที่ 3 ตามต่อมา หรือจะเป็นไปในรูปแบบสิงคโปร์ ที่รอบ 2 ที่น้อยกว่ารอบแรก และรอบ 3 ก็ยังมีเกิดขึ้นอีกเหมือนเกาหลี ดังนั้นสิ่งที่คนไทยทุกคนพึงต้องระลึกไว้ ว่าภายในปี 2564 นี้ มีแนวโน้มสูงที่จะเกิด คลื่นลูกที่ 3 อีก

Source : https://www.worldometers.info

          ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ควรทำในปี 2564 ก็ไม่ต่างจากปี 2563 คือ Cash is King ที่ทุกคนต้องเร่งระบายบ้าน คอนโด ค้างสต๊อก หรือหากวางแผนจะเปิดตัวโครงการ ก็ต้องเป็นโครงการที่ คิดใหม่ทำใหม่ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะคาดการณ์วัคซีนน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในตุลาคมปี 2564 ดังนี้

1.      ด้านการออกแบบบ้าน รองรับ การทำงานที่บ้าน Work from Home หรือ บ้าน คือ Work life balance โดยการปรับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านใหม่ ให้มีห้องทำงาน ห้องเด็กเล่น และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

2.     บ้านประหยัดพลังงาน ออกแบบบ้านให้เปิดโล่งเพื่อรับทิศทางลม แดด ที่เหมาะสม หรือนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้

3.     เพิ่มพื้นที่สีเขียวในส่วนกลาง ทั้ง ต้นไม้ใหญ่ หรือ พื้นที่สีเขียว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถออกกำลังกายในโครงการได้ แทนการไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ

4.     พื้นที่ครัว ที่ต้องถูกออกแบบใหม่ให้ใช้ได้จริง เพราะ ครัวคือศูนย์กลางความสนุกของคนทั้งบ้าน 

 

            สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ ในช่วงวิกฤติ ที่ผู้บริโภคมีความจำเป็นในการซื้อที่อยู่อาศัย เพราะที่อยู่อาศัยเดิม ไม่พร้อมรองรับในการอยู่อาศัยพร้อมกันของคนทั้งครอบครัว หรืออาจจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งสวนทางกับเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคที่รายได้ลดลง โปรโมชั่นที่น่าสนใจในช่วงนี้ คือ  “บ้านพร้อมอยู่พร้อมชุดตกแต่ง + ดอกเบี้ย 0%  1 ปีแรก และ คงที่อย่างน้อย 3 ปี  ” เป็นโปรโมชั่นที่ช่วยผู้บริโภค ทั้งในแง่งบประมาณที่ควบคุมได้ และสร้างความผ่อนคลายในด้านการเงินได้เป็นอย่างดี  แต่หากให้เข้ากับสถานการณ์คนไทยที่นิยมโปรโมชั่นแรงของภาครัฐ นั้น คือ ผู้ประกอบการน่าจะออกโปรโมชั่นคนละครึ่งช่วยลูกค้าเพิ่มเติม อาทิ ผ่อนชำระหนี้ให้คนละครึ่ง สัก 2  ปีแรก 

            สำหรับการวางแผนพัฒนาโครงการนั้น ให้เลือกทำเลที่มีความเหมาะสมด้านการอยู่อาศัย เพราะความหมายของ “Good Location” ของลูกค้า คือ การอยู่ในชุมชน สภาพแวดล้อม ที่สามารถใช้ชีวิตได้แบบ 24 ชม. ไม่ใช่ทำเลที่รองรับการเดินทางไปทำงานในตอนเช้า เพียงเท่านั้นแล้ว