นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. และผู้บริหารคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดย ก.ล.ต.ได้เสนอแนวทางระดมเงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศผ่านกลไก ตลาดทุน เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้สาธารณะและการใช้จ่ายงบ ประมาณประจำปี เพราะปัจจุบันมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เตรียมระดมทุนผ่านรูปแบบดังกล่าวแล้ว "การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้เงินจากงบประมาณประจำปีทำได้จำกัด เพราะในแต่ละปีจะขาดดุลงบประมาณได้ไม่เกิน 15% ของวงเงินงบประมาณประจำปี ขณะที่หนี้สาธารณะล่าสุดแตะระดับ 45.91% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แล้ว หากกู้เงินเพื่อลงทุนเพิ่มอาจทำให้ระดับหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นไปถึง 48-50% ต่อจีดีพี ใกล้กรอบความยั่งยืนทางการคลัง การใช้กลไกตลาดทุนจึงเป็นเรื่องน่าสนใจ" นายวรพลกล่าว นายวรพลกล่าวว่า ในการหารือดังกล่าวได้ข้อสรุปว่ามีหน่วยงานที่เข้าข่ายและสามารถระดมเงินผ่านทางตลาดทุนได้ อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแนวโน้มที่จะระดมทุนผ่านกลไกตลาดทุนเร็วที่สุด เนื่องจากปรึกษาแนวทางกับ ก.ล.ต.มากว่า 1 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังเสนอให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีอสังหาริมทรัพย์ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระดมเงินผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำรายได้จากการขายกองทรัสต์ไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้ได้เดินทางไปพบหน่วยงานกับกับดูแลหลักทรัพย์ของประเทศจีน เพื่อเชิญชวนให้บริษัทของจีนเข้ามาในตลาดทุนไทย เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่ามีบริษัทจีนและพม่าให้ความสนใจแล้ว ที่มา : นสพ.มติชน