ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา มายด์เซ็ทบางอย่างที่เคยใช้ได้กับการทำงานวันนี้ อาจไม่ได้ยั่งยืนสถาพรตลอดไป เพราะฉะนั้น ใครที่ปรับตัวไม่ทันโลก เปลี่ยนไม่ทันกับการก้าวไปข้างหน้าขององค์กร ย่อมมีโอกาสถูกกำจัดจุดอ่อนได้โดยง่าย ไม่เฉพาะมนุษย์งานวัยเก๋า แต่รวมถึงชาวมิลเลนเนียลด้วย

         มาดูซิว่า อะไร คือ 7 มายเซ็ทที่ถึงเวลากำจัดให้พ้นทาง ผลักออกไปให้พ้นจากเส้นทางสู่ความสำเร็จ


         1.“ตราบที่ฉันยังตั้งใจทำงาน ย่อมมีที่ยืนสำหรับฉันเสมอ” เจ ที โอ ดอนเนลล์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Work It Daily เว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านอาชีพให้กับมนุษย์งาน มีวลีเด็ดประจำใจว่า “ทุกงานล้วนปราศจากความยั่งยืน” ชีวิตคนเราที่ว่าไม่มีอะไรแน่นอนแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับไดนามิกในที่ทำงานจะพบว่า ผันแปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะสุดท้ายแล้วแม้แต่องค์กรเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้นทักษะของคุณที่เคยเฉิดฉายมีออร่าเป็นที่หมายตาของทุกองค์กรในวันนี้ ในอนาคตอาจกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า หรือ สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ เพราะฉะนั้นแทนที่จะภูมิใจอยู่กับทักษะหรือความรู้ที่มีวันนี้ ควรหมั่นลับฝีมือ ติดอาวุธเพิ่มเติมให้พร้อมสำหรับก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ


         2.“อย่าเอาความหวังไปฝากไว้ว่าออฟฟิศจะช่วยลับฝีมือ พาคุณก้าวไปอีกขั้น” พอกันทีกับการติดภาพว่าที่ทำงานคือ ห้องเรียนขนาดใหญ่สำหรับการเรียนรู้ เพราะโลกใบเดิมที่หมุนเร็วกำลังสร้างความรู้ใหม่ๆ มากมายให้เรียนรู้ไม่รู้จบ ที่สำคัญมันเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องพาตัวเองออกไปเสาะแสวงหาความรู้นั้นมาเพิ่มเติมใส่ตัวมากกว่าที่จะเอาความหวังและอนาคตไปฝากไว้กับองค์กร เพื่ออัพเลเวลให้คุณเป็นคนที่พร้อมและใช่ที่สุด เพราะทักษะหรือความรู้ที่ว่านี้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวเหมือนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ทุกคนสามารถเลือกออกแบบเส้นทางอนาคต ต่อยอดวิชาความรู้เฉพาะตัวได้


         3.“ผู้บังคับบัญชาคือผู้กุมชะตาแห่งความสำเร็จ” คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ที่จะนำอนาคตไปฝากไว้ในกุมมือของใครก็ตาม ต่อให้ความสัมพันธ์ของคุณกับหัวหน้าจะซี้แน่นปึกขนาดไหน เพราะฉะนั้นลองปรับจูนความคิดใหม่ตั้งแต่วันนี้ว่า ต่อให้คุณจะเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือน แต่ให้คิดไว้เสมอว่าคุณคือซีอีโอในงานที่รับผิดชอบ คุณจะทำอย่างไรเพื่อบริหารและนำพาให้คุณไปสู่เป้าหมายสูงสุด ภายใต้กรอบนโยบายที่มี ตลอดจนปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุม


         4.“การสร้างแบรนด์ให้ตัวเองเป็นการทรยศบริษัท” แทนที่จะคิดแบบนั้น ลองพิจาณาความจริงอีกมุมว่า ถ้าบริษัทที่ดีควรส่งเสริมพนักงาน หรือ อาจจะหาทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในรูปแบบใหม่ การทำงานก็ส่วนหนึ่ง ชีวิตก็ส่วนหนึ่ง ถึงเราจะทำงานให้องค์กรอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องหันหลังให้กับโลกความเป็นจริง


         5.“ทำมาก เสียมาก” แทนที่จะนั่งตัดพ้อ เฝ้าแต่น้อยใจองค์กรว่าทำดีไปเสมอตัว ทำน้อยก็ลอยนวล ลองปรับมุมคิดแบบใจนักเลงว่า บางครั้งถ้าไม่ยอมกระโดดหน้าผา ก็อาจไม่มีทางรู้ว่า ข้างล่างมีอะไร การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เดินออกจากคอมฟอร์ตโซน ทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง อาจพาให้คุณก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ต่อให้ต้องพบกับความล้มเหลว แต่คุณก็ได้เรียนรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ สัมผัสกับรสชาติที่คนอื่นอาจไม่ได้ลิ้มรส


         6.“เล็กๆ เมิน ใหญ่ๆ ถึงทำ” บางครั้งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ก็ก่อตัวจากความสำเร็จเล็กๆ ที่คุณสะสมทุกวันจนก่อตัวเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ คุณอาจไม่จำเป็นต้องย่อไซส์ความฝันให้เล็กเกินไป แต่แค่ตั้งฝันใหญ่ แล้วแยกย่อยเป็นระยะทางลงมาเพื่อจะไปถึงความฝันนั้น  

         อ่านจบแล้ว ลองกลับมาถามใจตัวเองดูซิว่า มีมายด์เซ็ทข้อไหนของคุณที่เข้าข่าย จะได้สลัดให้หลุดตั้งแต่วันนี้