นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะยังเดินหน้าโครงการจัดซื้อและจัดจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่จังหวัดกระบี่ ขนาด 800 เมกะวัตต์ ตามกำหนดเดิมในวันที่ 22 ก.ค. เพื่อที่จะดำเนินการคู่ขนาน ไปกับการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ไปพร้อมๆกัน โดยขอยืนยันว่าการดูแลมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยได้มาตรฐานเทียบเท่ากับมาตรฐานของญี่ปุ่น และสามารถปฏิบัติได้จริง กรณีความกังวลเรื่องผลกระทบต่อการท่องเที่ยวก็จะไม่มีอย่างแน่นอน เพราะการขนส่งถ่านหินมายังโรงไฟฟ้าเป็นระบบปิด และมีกำหนดเส้นทางขนส่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันเดิมและกำหนดเพียง 2 เที่ยวต่อวัน
ส่วนกรณีแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) จะหยุดซ่อมบำรุงประจำปี วันที่ 19-23 ก.ค. ล่าสุดต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 21-25 ก.ค. เนื่องจากเรือที่ทำหน้าที่ขนถ่ายอุปกรณ์เพื่อเข้าซ่อมในพื้นที่เจอปัญหาคลื่นลมแรงไม่สามารถเดินทางได้ กรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนหยุดซ่อม เพราะเป็นการเลื่อนระยะสั้นๆ โดยผลจากการหยุดซ่อมทำให้ก๊าซธรรมชาติจะหายไปจากระบบ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน กระทบกับโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 800 เมกะวัตต์ ที่อาศัยก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเจดีเอเป็นเชื้อเพลิง.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์