นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวกรณีที่จังหวัดตรัง โดยอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทาง ทะเลบริเวณเกาะมุก ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือก และเกาะแหวน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย.2558 ว่า เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ร่วมกับ ผู้ประกอบการ และตัวแทนภาคการท่องเที่ยวได้เข้า หารือกับ ผวจ.ตรัง เพื่อให้พิจารณาผ่อนปรนในการปิด แหล่งท่องเที่ยว ทั้งยังขอให้เปิดแหล่งท่องเที่ยวเพิ่ม 2 จุด คือ เกาะเชือก และถ้ำมรกต ซึ่งได้รับความเห็นชอบ แต่เรื่องก็เงียบหายไป แต่เมื่อมีประกาศสั่ง ปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล 5 แห่ง ทำให้ภาพลักษณ์ การท่องเที่ยวเป็นไปในทางลบ ส่งผลกระทบต่อจำนวน นักท่องเที่ยวที่ลดลงเป็นจำนวนมาก เพราะนักท่องเที่ยว สมัยนี้มักจะพารถมาเอง ไม่ได้มาเป็นกลุ่มทัวร์เหมือน เมื่อก่อน หากตรังปิดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะทำให้นักท่องเที่ยวหันไปเที่ยวจังหวัดอื่นแทน
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ทางอุทยานฯ สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล มีกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวตอบกลับมาว่า การที่เดินทางมา จ.ตรัง แล้วไปท่องเที่ยวได้เพียงแค่เกาะไหงเพียงแห่งเดียวนั้น ไม่มีความคุ้มค่า เมื่อนักท่องเที่ยวพูดปากต่อปากกันมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในภาพรวม ทั้งจังหวัด “เมื่อเห็นหนังสือที่ทางจังหวัดส่งมาทำให้เสียความรู้สึก ไม่ได้โทษจังหวัด หรืออุทยานฯ ที่ต้องการ รักษาทรัพยากรทางธรรมชาติ แต่เสียดายที่ไม่พิจารณา ถึงผลกระทบทางด้านอื่นที่จะตามมา นักท่องเที่ยวหดหายไปหมด จะให้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยเหลือประชาสัมพันธ์ก็เป็นไปได้ยาก เพราะ จากเดิม จ.ตรัง เคยบอกว่าเป็นจังหวัดที่เที่ยวได้ทั้งปี แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทางกับสโลแกน จึงหาสโลแกนที่มาดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ยาก”.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์