นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการเปิดงานสัมมนา “Vietnam in Focus 2022: The Dream Journey” ว่า เวียดนามเป็นตลาดมาแรงที่น่าสนใจ เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นโอกาสการส่งออก และการลงทุน เพราะเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตสูงเกือบ 7% ต่อปี ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยรองจากสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เวียดนามกลายเป็นฐานการลงทุนแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยที่สนใจขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศจากข้อดีด้านแรงงาน ข้อตกลงเสรีทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนาม รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ นอกจากนี้กรอบความร่วมมือทั้งอาเซียนหรือเอเปค ได้ส่งเสริมพร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้า และการลงทุนกับเวียดนามให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีนอกจากการค้าแล้วยังต้องให้ความสำคัญกับการบริการ ซึ่งไทยมีความสามารถและประสบการณ์ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม หรือด้านวัฒนธรรม ซึ่งต้องมีการเปิดตัวไปสู่ภูมิภาค นอกเหนือจากการสร้างความเจริญเติบโตภายในประเทศแล้ว เรายังต้องแสวงหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากประเทศอื่นๆ ในลักษณะที่เป็นคู่ค้าหรือหุ้นส่วนต่างๆ เพื่อสร้างรายได้กลับมาประเทศ

 

ทั้งนี้รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในมิติการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งในมิติการเงินการคลัง ผ่านการสนับสนุนของ EXIM BANK ที่มุ่งเน้นการทำหน้าที่ในเชิงรุกสู่บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการเงิน และเครือข่ายพันธมิตรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดการค้าโลก ก้าวข้ามอุปสรรค ความท้าทาย และความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ปัจจุบันหัวใจสำคัญของการแข่งขันในตลาดโลกยุค Next Normal ได้แก่ ความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย EXIM BANK จึงพร้อมทำหน้าที่มากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ตั้งแต่ Start-up ไปจนถึงผู้ประกอบการทั่วไปสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนและปัจจัยท้าทายทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย EXIM BANK มีเครื่องมือทางการเงินครบวงจร ควบคู่กับข้อมูลความรู้และเครือข่ายพันธมิตรที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจ ทั้งในตลาดใหม่และตลาดเดิม โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเดิมเคยอยู่ในฐานะ “คู่แข่ง” ปัจจุบันได้พลิกโฉมเป็น “คู่ค้าสำคัญ” ที่ไทยพึ่งพาและพึ่งพิงมากขึ้น โดยเวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของไทยมาตั้งแต่ปี 2560 ไต่ระดับขึ้นมาจากอันดับ 15 ในปี 2555 ขณะที่เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนสำคัญอันดับ 4 ของไทยในปัจจุบัน ไต่อันดับจากอันดับ 10 เมื่อ 10 ปีก่อน

สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามในปี 2564 สูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นอัตราที่เติบโตจากปี 2563 ถึง 20% โดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกจากไทยไปเวียดนาม 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงจากปีก่อน 12.3%