กกร. คงประมาณการเศรษฐกิจไทยกรอบเดิม GDP โต 2.5-4% ส่งออก 3-5% และเงินเฟ้อ 3.5-5.5% แม้ปัจจัยเสี่ยงมีรอบด้าน แต่ยังคงหวังเครื่องยนต์ภาคการท่องเที่ยว จะเข้ามาหนุนเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกร. ประจำเดือนมิถุนายน 2565 ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 65 ขยายตัวในกรอบเดิม 2.5 – 4.0% ส่งออกขยายตัว 3.0 – 5.0% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวในกรอบ 3.5 – 5.5%

แม้ยังมีความเสี่ยงรอบด้านจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง รวมทั้งต้นทุนและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นแต่การท่องเที่ยวและการส่งออกที่ยังขยายตัวจะเป็นแรงส่งเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี โดยคาดว่าการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีแม้อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจะฉุดรั้งกำลังซื้อและการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ โดยการเปิดประเทศเมื่อ 1 พ.ค. ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นชัดเจน ซึ่งคาดว่าเป้าหมายนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ตั้งไว้ 6-8 ล้านคน น่าจะเป็นไปได้ และคนไทยเองก็เดินทางมากขึ้นและยังได้อานิสงส์จากการขยายสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันเพิ่มเติมอีกด้วย

ส่วนการส่งออกจะเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่ผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเผชิญกับผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ความกังวลเกี่ยวกับอาหารขาดแคลนราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราเงินเฟ้อในระดับสูง การขาดแคลนสินค้าสำคัญใน supply chain ภาคอุตสาหกรรม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของหลายธนาคารกลาง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่จีดีพีอาจจะขยายตัวเพียง 4.5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 5.5%

ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง และอาจจะกระทบต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี โดยมีสัญญาณเตือนจากตัวเลขการส่งออกของไทยไปยังประเทศจีนและญี่ปุ่นในเดือนเม.ย. 2565 ที่หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ภาพรวมการส่งออกเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกยังเติบโตได้อยู่ในระดับ 9.9% ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ Supply ยังสามารถไปได้ แต่ยังประสบภาวะราคาค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาพลังงานที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น