เมื่อพูดถึงแบรนด์ที่อยู่อาศัยแนวราบคุณภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอันดับต้นๆ ในวงการอสังหาฯ บ้านเรา คงนึกอยู่ในใจเพียงไม่กี่แบรนด์ แต่ในจำนวนนั้นถ้าพูดถึงแบรนด์ที่ใช้เวลาสร้างการเติบโตเพียงไม่กี่ปี คงไม่พ้น Britania (บริทาเนีย) ภายใต้ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ที่ก่อตั้งโดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ค่ายอสังหาหัวก้าวหน้าเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับบนเส้นทางผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย

แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาทำความรู้จัก ‘ออริจิ้น’ เพราะหลายคนคงคุ้นเคยกับค่ายนี้ดีอยู่แล้ว แต่จะมาเจาะลึกตัวตนของ Britania (บริทาเนีย) กับเบื้องหลังคีย์ความสำเร็จที่ทำให้แบรนด์นี้แข็งแกร่งในเวลาอันรวดเร็ว

 

ดีเอ็นเอความเป็น Britania (บริทาเนีย) บนแนวคิด “Human Centric”

         Britania (บริทาเนีย) เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่เน้นเจาะตลาดบลูโอเชี่ยน ทำให้นอกจากเน้นโลเคชั่นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้ว ยังขยายแบรนด์ไปยังพื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคตะวันออก ชูจุดเด่นเรื่องรูปแบบคอนเซ็ปต์ ดีไซน์ และการตกแต่งภายในที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Design) ภายใต้แนวคิด “Human Centric” เพื่อส่งมอบบ้านที่สะท้อนคุณค่าและตัวตนของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และการบริการหลังการขายที่ ‘เอาใจใส่ลูกค้า’ เสมือน ‘คนในครอบครัว’ 

         จากแนวทางนี้ ทุกโครงการภายใต้แบรนด์ Britania จึงเน้นสื่อสารกับผู้อยู่อาศัย ด้วยคอนเซ็ปต์คาแร็คเตอร์ที่ว่า “A Life You Love” ความสุขที่ได้ดีไซน์ชีวิตในแบบที่รัก บนความสะดวกสบายของชีวิตครบครัน เพื่อให้มีเวลาที่ได้ทําสิ่งที่รัก โดยนิยามนี้ถูกนำมาสอดแทรกในทุกโครงการภายใต้แบรนด์ Britania ที่แตกออกเป็น 4 แบรนด์หลัก ได้แก่

(1) บ้านแฝดและทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ Brighton (ไบรตัน) : ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อายุเฉลี่ย 25 – 35 ปี หรือกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงาน (First Jobber) รายได้ต่อเดือน 30,000 – 50,000 บาท ขึ้นไป ที่มีความทันสมัย เข้าใจเทคโนโลยี ไม่ยึดติดในกรอบ และมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์การชีวิตของตนเองได้ 

(2) บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม Britania (บริทาเนีย) : ตอบโจทย์ครอบครัวเริ่มต้น อายุเฉลี่ย 25 – 40 ปี กลุ่มวัยทำงาน พนักงานบริษัท และเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก รายได้ต่อเดือน 50,000 – 130,000 บาท ขึ้นไป ที่มองหาความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ

(3) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด Grand Britania (แกรนด์ บริทาเนีย) : ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดกลาง อายุเฉลี่ย 35 – 50 ปี ในกลุ่มพนักงานบริษัทระดับบริหาร หรือเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ รายได้ต่อเดือน 130,000 - 500,000 บาท ขึ้นไปที่มองหาสิ่งต่างๆ ที่ช่วยเติมความสมบูรณ์แบบของชีวิต มองอนาคต ต้องการความสงบเพื่อการพักผ่อนกับครอบครัว

(4) บ้านเดี่ยว Belgravia (เบลกราเวีย) : ตอบโจทย์ผู้บริหารระดับสูง หรือเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ อายุเฉลี่ย 35 – 50 ปี มีรายได้ต่อเดือน 500,000 บาท ขึ้นไป เป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ตามใคร ทันสมัย มีฐานะมั่นคง

 

5 ปีแห่งการเดินทาง สู่การเติบโตก้าวกระโดด

         เมื่อหันกลับไปมองเส้นทางของแบรนด์ Britania ต้องยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตค่อนข้างก้าวกระโดด โดยในเวลาเพียง 5 ปีก็สามารถเข้าไปครองใจผู้อยู่อาศัย นำเสนอโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างต่อเนื่องมากกว่า 15 โครงการ (สำหรับโครงการอยู่ระหว่างการขายและการโอนกรรมสิทธิ์ และโครงการที่ปิดไปแล้ว) ส่วนหนึ่งเพราะแนวทางในการพัฒนาโปรดักส์ เน้นถึงลูกค้าด้วยกลยุทธ์บลูโอเชี่ยน และที่สำคัญคือ Britania ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์แต่เริ่มต้นจากรากฐานที่มั่งคงแล้วจากทีมงานของออริจิ้นที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และทีมผู้บริหารของบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมานานกว่า 10 ปี

         ภายในเวลา 5 ปี Britania แต่ละย่างก้าวของ Britania มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? สรุปเหตุการณ์สำคัญมาให้แล้ว

2559

  • บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด (ชื่อเดิมก่อนจะเป็นบริทาเนีย) ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ก่อนเพิ่มทุนจดทะเบียน เป็น 120.0 ล้านบาท

2560

  • เปิดขาย Britania Srinakarin (บริทาเนีย ศรีนครินทร์) เป็นโครงการแรกของบริษัทฯ เป็นบ้านเดี่ยว&บ้านแฝด 2 ชั้น 149 ยูนิต มูลค่า 867 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในพฤศจิกายน 2560 และปิดโครงการได้กันยายน 2562

2561

  • เปิดขาย Britania Mega Town-Bangna (บริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา) บ้านแฝด&ทาวน์โฮม 2 ชั้น 472 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท และเปิดขาย Britania Bangna KM.12 (บริทาเนีย บางนา กม.12) บ้านเดี่ยว 182 ยูนิต มูลค่า 1,162 ล้านบาท เริ่มเปิดขายในธันวาคม 2561 และปิดโครงการได้พฤศจิกายน 2563

2562

  • เปิดขาย Britania Wongwaen-Hathairat (บริทาเนีย วงแหวน-หทัยราษฎร์) บ้านแฝด&ทาวน์โฮม 2 ชั้น 288 ยูนิต มูลค่า 1,050 ล้านบาท เริ่มเปิดขายมีนาคม 2562
  • เปิดขาย Britania Khukhot Station (บริทาเนีย คูคต สเตชั่น) บ้านเดี่ยว&บ้านแฝด 2 ชั้น 138 ยูนิต มูลค่า 750 ล้านบาท และ Britania Bangna-Suvarnabhumi (บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ) บ้านเดี่ยว&บ้านแฝด 2 ชั้น 485 ยูนิต มูลค่า 2,700 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายตุลาคม 2562
  • เปิดขาย Britania Bangna-KM.42 (บริทาเนีย บางนา กม.42) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น 492 ยูนิต มูลค่า 1,500 ล้านบาท เริ่มเปิดขายพฤศจิกายน 2562
  • เปลี่ยนชื่อจากบริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด เป็น บริษัท บริทาเนีย จำกัด เพื่อตอกย้ำและสร้างการรับรู้ในแบรนด์บริทาเนีย
  • บริษัท เบลกราเวีย ราชพฤกษ์ จำกัด ก่อตั้งขึ้น เพื่อดำเนินโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5
  • บริษัท บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา จำกัด ก่อตั้งขึ้น เพื่อดำเนินโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา

2563  

  • เปิดขาย Britania Saimai (บริทาเนีย สายไหม) บ้านแฝด&ทาวน์โฮม 2 ชั้น 297 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาท เริ่มเปิดขายมีนาคม 2563
  • เปิดขาย Grand Britania Wongwaen Ramintra (แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 278 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท เริ่มเปิดขายมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ Grand Britaniaครั้งแรก
  • เปิดขาย Brighton Bangna KM.26 (ไบรตัน บางนา กม.26) ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นและ 3 ชั้น 99 ยูนิต มูลค่า 350 ล้านบาท และ Brighton Khukhot (ไบรตัน คูคต) บ้านแฝด&ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น 224 ยูนิต มูลค่า 750 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายกันยายน 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ ไบรตันครั้งแรก
  • เปิดขายโครงการ เบลกราเวีย เอ๊กซ์คลูซีฟ พูลวิลลา บางนา-พระราม 9 (Belgravia Exclusive Pool Villa Bangna) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 65 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท เริ่มเปิดขายธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ เบลกราเวียครั้งแรก

2564  

  • บริษัทฯ ประกาศแผนเปิดโครงการ จำนวน 9 โครงการ รวมมูลค่า 10,800 ล้านบาท อาทิ ไบรตัน อมตะ ศุขประยูร (Brighton Amato-Sukprayoon), แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 (Grand Britania Bangna KM.12), แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ พระราม 5  (Grand Britania Ratchaphruek – Rama 5) ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 246 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,100.0 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ เริ่มเปิดขายรอบพิเศษมีนาคม 2564
  • บริษัท บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1.0 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17
  • บริษัท บริทาเนีย บางนา กม.35 จำกัด ก่อตั้งขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 1.0  ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม. 35

           

4 ความแกร่งสไตล์ Britania

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Britania มีการเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาโครงการแบบก้าวกระโดด หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ด้วยระยะเวลา 4 ปี จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 1 โครงการ ในปี 2560 มาเป็น 30 โครงการ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนสร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 11.4 ล้านบาท ในปี 2560 เป็น 2,342.1 ล้านบาท ในปี 2563 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 489.7 ต่อปี

เบื้องหลังความสำเร็จชนิด 400% นี้ ย่อมเกิดจากการผสมผสานจุดแข็งหลายๆ ประการ โดยเฉพาะการเริ่มต้นจากก้าวแรกที่มั่งคง ได้แก่

1. Britania เกิดจากทีมผู้บริหาร-ทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานาน : การรวมทีมผู้บริหารและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญคร่ำหวอดในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 10 ปี บวกกับทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความสามารถจากหลากหลายอุตสาหกรรม จากจุดนี้เองจึงทำให้เกิดการผสมผสานมุมมองและวิสัยทัศน์ในหลายๆ แง่มุม นำไปสู่ทิศทางการทำงานใหม่ๆ มองเกมขาดในการบริหารองค์กรและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

2. Britania ออกแบบบ้านที่ตอบสนองความต้องการผู้อาศัยอย่างแท้จริง : เพราะบ้านเป็นพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยต้อง ‘ได้รับความสุขที่ได้ดีไซน์ชีวิตในแบบที่รัก’ และเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตที่ต้องอยู่ด้วยกันไปอีก 10-20 ปี การดูแลก่อนและหลังการขายที่เป็นกันเอง จึงเป็นหัวใจสำคัญในการบริการของ Britania การออกแบบบ้านและให้บริการแก่ลูกค้าภายใต้แนวคิด Human Centric จึงเป็นปรัชญาการทำงานที่ Britania ยึดมั่นมาโดยตลอด โดยศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการพื้นฐานของผู้อยู่อาศัย รวมถึงปัญหาต่างๆ ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Customer Pain Point) เพื่อออกแบบโครงการให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิต ทำให้แบบบ้านสไตล์ Britania ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตตามยุคสมัย 

3. Britania มีศักยภาพบริหารต้นทุนโครงการอย่างมีระบบและมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง : การบริหารต้นทุนการก่อสร้างเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์  โดย Britania มีหน่วยงานภายในทำหน้าที่คัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างหลายราย เพื่อช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. Britania ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  : Britania เป็นบริษัทแกนนำหลัก (Flagship Company) ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบของกลุ่ม ORI ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย จึงได้รับประโยชน์จากการส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในการประสานความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกัน เช่น สนับสนุนด้านเงินกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม การจัดซื้อจัดจ้างในปริมาณมากเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง เป็นต้น

 

4 กลยุทธ์แต้มต่อ ครองใจผู้อยู่อาศัย

         ไม่เพียงความเฉียบขาด มองการณ์ไกลในการบริหารงานหลังบ้านเท่านั้น เมื่อมองเรื่องการพัฒนาโครงการและโปรดักส์ Britania ยึด 4 กลยุทธ์หลักที่ผ่านการตกผลึกมาแล้ว และใช้เป็นแนวทางมาตลอด 5 ปี ได้แก่

1. ทำเลศักยภาพอยู่ใกล้แหล่งงาน : ปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ ทำเล Britania ให้ความสำคัญกับทำเลของโครงการเป็นลำดับแรก เน้นเรื่องอยู่ใกล้แหล่งคมนาคมที่สำคัญ เดินทางสะดวก โดย Britania ใช้กลยุทธ์ในการเลือกทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑลชั้นนอกที่มีอัตราเติบโตของประชากรสูง ใกล้ทางด่วน ถนนสายหลัก หรือระบบขนส่งมวลชนต่างๆ  ตลอดจนรุกไปในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรม อย่างพื้นที่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพราะเล็งเห็นในโอกาสของทำเลฐานะเป็นแหล่งงานคุณภาพสูงจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

2.งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Design) : แต่ละโครงการของ Britania เน้นดีไซน์ที่มีความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique Design) เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างความประทับใจและสร้างความต้องการในการเป็นเจ้าของ เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และสไตล์ของตนเอง

3.การให้บริการ-ออกแบบบ้านภายใต้แนวคิด Human Centric : Human Centric เป็นแนวทางที่ Britania ให้ความสำคัญมาโดยตลอด สังเกตได้ว่ามีการเอ่ยถึงแนวคิดตั้งแต่ต้นเรื่อง นั่นเพราะ Britania เชื่อว่า การจะสร้างสรรค์บ้านให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคจำเป็นต้องเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้อาศัย รู้ลึกในความต้องการและปัญหาต่างๆ (Customer Pain Point) ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ในการตอบสนองการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาตามช่วงอายุให้ครบทุกเพศ ทุกวัย (Universal Design)

4.เจาะกลุ่มกลยุทธ์บลูโอเชี่ยน (Blue Ocean Strategy) : ต้องบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Britania เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะนโยบายนี้ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ไม่ต้องไปแข่งขันในตลาดแบบดั้งเดิม และเปิดโอกาสให้เกิดการใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์อีกด้วย

นี่เป็นเพียงการเดินทาง 5 ปีแรกของแบรนด์ คิดดูว่าก้าวต่อไปหลังจากนี้ Britania จะนำเสนอโครงการใหม่ๆ หรือสร้างสรรค์ไอเดียที่แตกต่าง มายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยไปได้ไกลอีกขนาดไหน…จุดนี้คิดว่าไม่น่าเกินรอ เราก็จะได้เห็นภาพจริงกัน