7 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณยังไม่พร้อมจะซื้อบ้านในฝัน
 

การซื้อ บ้าน เป็นความฝันของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นวันเริ่มทำงานหรือวัยสร้างครอบครัว ทุกคนต่างก็อยากมี บ้าน เป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกๆคนจะพร้อมซื้อบ้านได้เสมอไป หรืออาจจะยังรั้นที่จะซื้อและยื่นกู้จนกลายเป็นหนี้สินใหญ่โต TerraBKK Research แนะ 7 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะซื้อบ้าน ดังนี้

1. การงานไม่มั่นคง

เมื่อคุณเริ่มต้นคิดที่จะซื้อบ้าน อย่างแรกที่ต้องคำนึงคือภาระค่าใช้จ่ายที่จะตามติดระยะยาวไปอีก 10-30 ปี ดังนั้นต้องย้อนกลับมาถามตัวเองก่อนว่า ในตอนนี้หน้าที่การงานคุณมีความมั่นคงพร้อมแล้วหรือยัง? ทั้งความมั่นคงของบริษัทและตัวคุณเอง หรือหากคุณมีแนวโน้มจะออกจากงานเร็วๆนี้ ก็ควรชะลอการตัดสินใจออกไปก่อน รอจนกระทั่งคุณได้หน้าที่การงานใหม่ที่มั่นคงกว่านี้ (หรืออาจจะรายได้ดีกว่านี้) จึงค่อยตัดสินใจซื้อบ้านอีกครั้งหนึ่ง แต่หลายคนมักคิดว่า “กู้ซื้อบ้านก่อนลาออก” เพราะมีสลิปเงินเดือนหรือหลักฐานยืนยันรายได้แล้ว

 

2. ไม่แน่ใจว่าจะอยู่นานแค่ไหน

การซื้อบ้านซักหลังคือต้องมุ่งมั่นจริงๆว่าคุณจะอยู่ทำเลนั้นเป็นเวลานาน เพราะการซื้อบ้านคือการลงเงินก้อนใหญ่ไปในคราวเดียว ดังนั้นหากคุณไม่มั่นใจว่าจะอยู่ทำเลนี้นานกว่า 5 ปี คุณควรหาบ้านเช่าจะเหมาะสมกว่า เพราะเงินที่จ่ายค่าเช่าไป รวมๆแล้วน้อยกว่าการซื้อบ้านที่ในช่วงต้นเป็นการจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคารเสียมากกว่า และเมื่อท้ายที่สุดแล้วที่คุณต้องย้ายออก การขายบ้านก็ยังคงสร้างความยุ่งยากตามมา การเพิ่มขึ้นของราคาที่ไม่ได้เพิ่มมากนัก (บ้านจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควรประมาณ 5-10 ปีขึ้นไป) และเมื่อต้องการขายก็ต้องใช้เวลาในการขายไม่น้อยกว่า 6 เดือน

3. ชีวิตเต็มไปด้วยหนี้สิน

สำรวจการเงินของตัวเองว่าในแต่ละเดือนคุณต้องนำเงินไปชำระหนี้กับสิ่งใดบ้าง ทั้งบัตรเครดิต, ผ่อนรถยนต์, ค่าน้ำมัน แล้วในแต่ละเดือนคุณมีเงินคงเหลือพอที่จะผ่อนบ้านอีกหรือไม่? แต่หากคุณมีหนี้สินมากเกินไป การไปยื่นขอกู้จากธนาคารเพื่อซื้อบ้านก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้น บางครั้งอาจจะกู้ไม่ผ่าน เพราะธนาคารจะนำหนี้สินทั้งหมดหักออกจากรายได้ และนำเงินก้อนนั้นมาคำนวณความสามารถในการกู้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นก่อนซื้อบ้านคุณควรเคลียร์หนี้สินอื่นๆให้หมดก่อนหรือเคลียร์ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้การซื้อบ้านของคุณไม่เป็นภาระที่หนักจนเกินไปและมีความสามารถซื้อบ้านในราคาที่สูงขึ้น อยู่ในทำเลที่ดีขึ้น

4. ไม่พร้อมกับการเป็น “เจ้าของ”

บ้าน ในที่นี้หมายถึงภาระหน้าที่ที่จะตามมาเมื่อคุณเป็น “เจ้าของ” บ้านแล้ว หลายคนก่อนจะซื้อบ้านก็ไปเช่าบ้านมาก่อน เวลามีอะไรเสียหายก็แจ้งเจ้าของบ้าน แต่เมื่อคุณมาเป็นเจ้าของบ้านแล้ว คุณต้องจัดการกับปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง ทั้งการซ่อมแซมและรักษาบ้านให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เจ้าของบ้านต้องชำระด้วยตนเอง เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง, ค่าเบี้ยประกันภัยต่างๆ เป็นต้น

5. เงินไม่พอกับการวางเงินดาวน์

โดยทั่วๆไปของการซื้อบ้าน ธนาคารไม่สามารถให้คุณกู้ได้เต็ม 100% ของราคาบ้าน ส่วนใหญ่จะให้กู้เต็มที่ประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้นก่อนคุณจะซื้อบ้าน คุณควรมีเงินก้อนหนึ่งประมาณ 20% ของราคาบ้าน ซึ่งหากตอนนี้สำรวจแล้วว่าคุณยังมีไม่ถึง หรือมีแบบพอดีๆ TerraBKK แนะนำให้คุณชะลอการซื้อ เพื่อออมเงินเพิ่มให้มากกว่านี้ หรือหาบ้านในราคาที่ถูกลง เพิ่มความพร้อมเมื่อต้องยื่นกู้

6. ไม่มีกองเงินฉุกเฉิน

นอกจากคุณจะต้องมีเงินก้อนหนึ่งสำหรับการวางเงินดาวน์แล้ว คุณยังต้องมีเงินเก็บอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน ไว้เผื่อใช้จ่ายยามจำเป็น เช่น ค่าใช้ธรรมเนียมจากธนาคาร, ค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมหรือการซื้อเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น เพราะคุณไม่ควรนำเงินสดทั้งหมดไปลงกับเงินดาวน์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดคิด ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่น โอนกรรมสิทธิ์บ้านแล้วยังเข้าอยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

7. รู้สึกกดดันว่าต้องซื้อบ้าน

การซื้อบ้านนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณเมื่อมองว่าทุกอย่างพร้อมและลงตัว แต่อย่าให้ความกดดันจากภายนอกมาเป็นสิ่งตัดสินใจว่าคุณจะซื้อบ้าน เช่น เพื่อนในวัยเดียวกันมีบ้านกันหมดแล้ว หรือ ทางบ้านกดดันว่าควรจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองเสียที เพราะถ้าคุณไม่ได้พร้อมอย่างจริงๆจังๆ อาจจะเกิดปัญหาทางการเงินในระยะยาวได้

ทั้งหมดนี้จะเป็น checklist ให้ทุกท่านได้สำรวจตัวเองก่อนคิดจะซื้อบ้านว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะการซื้อบ้านถือเป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้เงินที่เก็บมาตลอดชีวิต คือการสร้างหนี้สินระยะยาว 10-30 ปี TerraBKK แนะว่าควรรอให้มีความมั่นใจและพร้อมแน่นอนก่อนตัดสินใจจะซื้อบ้าน - เทอร์ร่า บีเคเค