ธนาคารออมสิน ปรับเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นขึ้น ช่วยลูกค้าทุกกลุ่มภายใต้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ พิษภัยไวรัสโควิด-19 พักหนี้เงินต้นไม่เกิน 2 ปี ชำระแต่ดอกเบี้ยตั้งแต่ 50-100% ชำระดีติดต่อกันทุก 6 เดือน ได้รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่จ่าย รวม 2 ครั้ง

เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.63 ถึงสิ้นปี 2564 พร้อมจัดเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อใช้จ่ายหากจำเป็น วงเงิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน ไม่ต้องมีคนค้ำ ปลอดชำระหนี้นาน 6 เดือน

ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการผ่อนปรนภาระและเงื่อนไขการชำระเงินกู้ช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ "โควิด-ไนน์ทีน" (Covid-19) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

โดยเน้นช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ขนส่ง บริการ โรงแรม เป็นต้น แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป หลายประเทศทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากรวมถึงในประเทศไทย ทำให้ทุกภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากหลายๆ ปัจจัยเป็นวงกว้างแทบทุกพื้นที่ของประเทศ จนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยรวม

ขณะที่รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว รวมถึงลูกค้าธนาคารออมสิน ดังนั้น คณะกรรมการธนาคารออมสินจึงได้เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารฯ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระเงินกู้ หรือแบ่งเบาภาระสินเชื่อ

พร้อมทั้งช่วยให้ลูกค้ามีเงินสดหมุนเวียนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใช้จ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นต่อการรับมือเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยเปิดให้ลงทะเบียนแสดงความจำนงเข้าโครงการที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ได้ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

สำหรับมาตรการนี้ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ารายย่อย สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อบุคคล ตลอดจนสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยกรอบของมาตรการประกอบด้วย ให้พักชำระเงินต้นไม่เกิน 2 ปี โดยชำระแต่ดอกเบี้ย 50-100% ของดอกเบี้ยประจำงวด (ในอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในสัญญา

ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่า 4%) ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี แล้วธนาคารฯ จะจ่ายคืนดอกเบี้ย (Cash Back) ในอัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระนั้นคืนให้ลูกค้าทุก 6 เดือน จำนวน 2 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี โดยในส่วนดอกเบี้ยที่ค้างชำระหรือที่ชำระไม่ครบนั้น ให้เฉลี่ยจ่ายคืนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี

และขยายระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 2 เท่าของระยะเวลาพักชำระเงินต้นแต่สูงสุดไม่เกิน 4 ปี โดยการเข้ามาตรการนี้ลูกค้าจะยังคงสถานะเป็นลูกหนี้ปกติ ไม่มีการบันทึกสถานะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเครดิตบูโรแต่อย่างใด

“หากลูกค้าพักเงินต้นแล้วจ่ายแต่ดอกเบี้ยทั้งจำนวน เช่น จ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 12 เดือน รวมเป็นเงิน 60,000 บาท ธนาคารจะจ่ายคืนเงินสดทุก 6 เดือน รวม 2 งวด เท่ากับ 12,000 บาท ถือเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ลูกค้าในภาวะที่อาจต้องใช้จ่ายจำเป็นเพิ่มเติม

เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อการดำรงชีพในภาวะปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารฯ ผ่อนคลายจากภาวะความวิตกต่อการดำเนินชีวิต และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้สามารถดำเนินชีวิตหรือดำเนินกิจการต่างๆ ต่อไปได้ เพื่อให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤตนี้ต่อไป” ดร.ชาติชาย กล่าว

ทั้งนี้ คุณสมบัติลูกค้าที่สามารถใช้มาตรการนี้ต้องได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ สงครามการค้า ภัยธรรมชาติ และการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง โดยต้องมีหลักฐานยืนยันชัดเจนสามารถเชื่อมโยงกับผลกระทบได้ ซึ่งรวมถึงลูกค้าปกติจนถึงลูกค้าที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs)


พร้อมกันนี้ ธนาคารฯ ได้เพิ่มมาตรการให้สินเชื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทย ภายใต้สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเดิมในวงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน ชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องมีหลักประกัน ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน โดยผ่อนปรนไม่ต้องชำระคืนเงินกู้ใน 6 เดือนแรก ยื่นเรื่องกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงตุลาคม 2563

ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน
โทร.1115 หรือ ตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคาร ได้แก่ Website : www.gsb.or.th, Facebook และ Official Line : GSB Society