ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยว่าพรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ชนะคะแนนโหวตคว้าเก้าอี้นายกฯ ต่อเป็นสมัยที่ 2 วันนี้ เราจะมาย้อนดูนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ใช้ในช่วงหาเสียง ซึ่งหลักๆ แล้วพรรคลุงตู่ ก็จะหาเสียงด้วยนโยบายเด่น 3 ด้านคือ 1.เพิ่มราคาสินค้าเกษตร 2.เพิ่มค่าแรง และ 3.สวัสดิการ

 

แน่นอนว่าถ้าใครจำได้ นโยบายด้านสวัสดิการ ของพรรคพลังประชารัฐที่เกี่ยวข้องกับด้านสวัสดิการ ก็มีอยู่หลากหลาย แต่การประสานแนวนโยบายต่างๆของพรรคร่วมรัฐบาลก็จะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญ เพราะแต่ละพรรคก็มีนโยบายที่ต่างกันในช่วงการหาเสียง และหลายมาตรการของหลายพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล ก็ยังเป็นนโยบายที่ต้องอาศัยวงเงินงบประมาณขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มจะเป็นงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง เช่น การประกันราคาสินค้าเกษตรหรือการประกันรายได้เกษตรกร การให้เงินมารดาที่ตั้งครรภ์ การให้เงินหรือดูแลเด็กเล็ก รวมถึงโครงการบ้านล้านหลัง

 

ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่านโยบายโครงการที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยอย่าง บ้านล้านหลังของรัฐบาลลุงตู่ 2 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบาย “ทำทันที” ของพรรคพลังประชารัฐจะมีรายละเอียดยังไงบ้างและถ้าสนใจจะต้องซื้ออย่างไรค่ะ

 

 

สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 2 เตรียมเดินหน้าเดือนกันยายนนี้ พร้อมปรับเงื่อนไขช่วยผู้มีรายได้น้อย ขยายเวลากู้เป็น 50 ปี คาดว่าผ่อนเริ่มต้นถูกสุดอยู่ที่เดือนละ 2,800 บาท 

ข้อมูล ณ วันที่ 20 มีนาคม 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้มอบนโยบายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทำโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ภายในเดือนกันยายน 2562 เพื่อขยายโอกาสผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่สามารถขอสินเชื่อได้ในรอบแรก โดยเฉพาะผู้ที่เลี้ยงดูบุพการีให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง พร้อมให้สิทธิพิเศษจูงใจ ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มอื่น ๆ 


         โดยขอให้ ธอส. ขยายระยะเวลากู้เป็นสูงสุด 50 ปี จากเดิม 40 ปี เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมากขึ้น ลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนให้ต่ำกว่า 3,800 บาท หลังพบมีผู้ถูกปฏิเสธสินเชื่อจำนวนมาก ส่วนโครงการบ้านล้านหลัง ระยะแรก ได้เร่งรัด ธอส. ปล่อยกู้ให้ผู้ยื่นจองสิทธิ์จำนวน 1.27 แสนคน ให้หมดภายในเดือนมิถุนายนนี้  

 

         นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้ มีวงเงินอยู่ที่ 80,000-100,000 ล้านบาท สำหรับผู้มีรายได้น้อย รายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน หรือผู้มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ที่ต้องการซื้อที่อยู่ออาศัยในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท 

         โดย ธอส. จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อปรับเงื่อนไขต่าง ๆ ตามนโยบายของนายสมคิด ทั้งการขยายระยะเวลากู้เป็น 50 ปี ลดจำนวนผ่อนต่อเดือนเป็น 3,000 บาท หรือหากรัฐชดเชยงบประมาณ 2,400 ล้านบาทมาให้ ก็จะช่วยลดเงินผ่อนบ้านเหลือแค่ 2,800 บาทต่อเดือน พร้อมพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไข เพื่อให้กลุ่มคนรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ให้เข้าถึงสินเชื่อบ้าน กลุ่มผู้เลี้ยงดูพ่อแม่ กลุ่มหนุ่มสาว คนเริ่มทำงาน โดย ธอส. พร้อมอุดหนุนภาระในช่วง 6 ปี โดยไม่ต้องขอชดเชยจากรัฐบาล ด้วยวงเงิน 2,400 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปี พร้อมให้สิทธิพิเศษผู้ที่เลี้ยงดูบุพการีก่อน และจูงใจด้วยการให้โบนัสก้อนหนึ่งไปลดเงินต้นหากผ่อนครบ 3 ปี ก็จะลดเงินต้นให้เดือนละ 500 บาท นาน 36 เดือน  

 

สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 สำหรับกลุ่มลูกกตัญญู จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1.ประชาชนที่จองสิทธิโครงการบ้านหลังแรก จำนวน 127,000 ราย หากต้องเลี้ยงดูบุพการีด้วย จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ถูกลงจากเดิม หรือเพิ่มระยะเวลาในการกู้ และลดเงินต้น เป็นต้น โดยจะขอให้กระทรวงการคลังจ่ายคืนให้ ธอส. หลังจากที่ ธอส.ได้จ่ายล่วงหน้าไปก่อน ในเรื่องของการลดดอกเบี้ยให้ประชาชน ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบจำนวนของผู้จองสิทธิว่าจะเข้าข่ายได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษจำนวนเท่าใด

 

2.ประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ธอส.จะพิจารณาลดดอกเบี้ยให้เป็นกรณีพิเศษ โดย ธอส.จะออกสลาก ธอส.รุ่นใหม่ เพื่อระดมทุนและนำรายได้มาใช้บริหารจัดการต้นทุนดอกเบี้ยในโครงการนี้ วิธีการนี้ ทำให้มีต้นทุนที่ถูกกว่าการระดมเงินด้วยการรับฝากเงินจากประชาชน ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ของผู้กู้มีอัตราต่ำกว่า 3% ต่อปี และกลุ่มผู้ขอสินเชื่อที่นำบิดา มารดา เข้ามาอยู่ในบ้านในโครงการบ้านล้านหลัง ยังจะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม อาทิ การลดดอกเบี้ย ลดวงเงินต้น เป็นต้น ซึ่ง ธอส.จะของบอุดหนุนจากกระทรวงการคลังอีก 2,400 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับประชาชนที่ได้รับสินเชื่อจาก ธอส.อีกเดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อช่วยผ่อนชำระสินเชื่อดังกล่าว และจะขอให้กระทรวงการคลัง เพิ่มเวลาการผ่อนชำระจากเดิมไม่เกิน 40 ปี เป็นไม่เกิน 50 ปี

 

สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลลุงตู่ 1 ส่งเสริมให้คนไทยมีบ้านครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเฟส 2 นี้ ได้มีแผนที่จะเดินหน้าโครงการบ้านล้านหลัง ให้ขยายวงกว้างเข้าถึงประชาชนมากขึ้น ด้วยการดึงภาคเอกชนรายใหญ่ รายย่อยเข้ามาช่วยสร้างบ้านไม่เกิน 1 ล้านบาท กระจายไปทั่วประเทศ โดยต้องสร้างบ้านคุณภาพ หรือออกแบบได้อย่างอิสระ หรือใช้วัสดุก่อสร้างแบบใหม่ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ขณะนี้รัฐบาลมอบหมายให้บีโอไอพิจารณา ส่งเสริมภาคเอกชนสร้างบ้าน โดยให้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี และหากรายย่อยมาร่วมสร้างบ้าน จะทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง อย่างเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง อุปกรณ์ก่อสร้าง ฯลฯ เติบโตไปด้วย ดังนั้นจึงต้องดึงให้เอกชนเข้ามาร่วมโครงการให้มากขึ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้นายสมคิด ได้ระบุว่า หลังการเลือกตั้ง ต้องการให้ ธอส.เตรียมเงินทุนให้พร้อม เพื่อเดินหน้าบ้านล้านหลังเฟส 2 ต่อไป ผ่านการออกสลาก ธอส. หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ผู้สูงอายุ ประชาชนหันมาฝากเงินกับ ธอส. เพราะให้ดอกเบี้ยสูง มองว่าหลังเลือกตั้งชาวบ้านคงมีอารมณ์หาแหล่งดีมาฝากเงิน

เอาเป็นว่าใครที่กำลังเตรียมจะซื้อบ้านในงบไม่เกิน 1 ล้านบาท  ถ้าไม่รีบนักก็อดใจรอนโยบายบ้านล้านหลัง เฟส 2 ของรัฐบาลลุงตู่ 2 กันไปก่อน เพราะราคาผ่อนแต่ละงวดก็ไม่สูงมากนัก จะได้สานฝันเพื่อคนอยากมีบ้านทำได้ง่ายขึ้นค่ะ