ความเป็นเมือง ถูกพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับความเจริญของเมือง และเมื่อความเจริญถึงขีดสุด ย่อมเกิดการขยายความเจริญไปสู่พื้นที่โดยรอบ เรียกว่า เกิดการขยายของเมืองไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ มีนบุรี รามคำแหง ทำเลชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ยังง่ายต่อการเดินทางไปยัง จังหวัดฝั่งตะวันออกของประเทศไทย เช่นกัน ทำเลเช่นนี้เรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า ทำเล "NEW EBD’’ Extension Business District เป็นทำเลส่วนต่อขยายจุดตัดรถไฟฟ้า ทำเลอนาคต ที่มีศักยภาพการเติบโต "NEW EBD’’ คือย่านที่เชื่อมต่อความเจริญจากพื้นที่ใจกลางเมืองออกไปด้วยโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างถนนหรือรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ย่านเทพารักษ์ หรือ รามคำแหง-มีนบุรี ล้วนเป็น “NEW EBD” ใหม่ที่ความเจริญกำลังคืบคลานเข้าถึงในไม่ช้า           



          และในครั้งนี้ จะมาเจาะลึกถึงความน่าสนใจของทำเล เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ผู้ประกอบการ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มองเห็นโอกาสของการพัฒนาที่ดินรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูงอีกครั้ง หากยังพอจำกันได้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เคยยก ''กลยุทธ์ทะเลสีคราม'' ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากทำเล “เทพารักษ์” ส่งมาลงตลาดกลุ่ม First jobber เน้น Local Demand เปิดตัว 6 โครงการใน 6ทำเลศักยภาพ เรียกได้ว่าสะเทือนวงการอสังหาฯ ด้วยการจับกลุ่มตลาดที่เหมาะกับทำเล ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยปิดการขายภายในสองวัน ครั้งที่แล้วกับทำเลเทพารักษ์ อินเตอร์เชนจ์ สายสีเขียวและสายสีเหลือง มาครั้งนี้กับกลยุทธ์เดิมที่ Origin เลือกใช้กับจุดตัดใหม่ อย่างสายสีส้มและสีชมพู นำร่องแบรนด์ใหม่นี้ ด้วย  The Origin Ram 209 Interchange รายละเอียดดังนี้  

จาก “ทำเลเชื่อมต่อกรุงเทพและเมืองฝั่งตะวันออก” สู่ “ทำเล Interchang เชื่อมต่ออนาคต ทั่วกรุงเทพ”

          ด้วยจุดเด่นด้านความสะดวกสบายในการเดินทางของทำเลนี้ หากเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ ไปตาม ถนนร่มเกล้า ไปจนสิ้นทางก็จะพบ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกัน หากเดินทางไปตาม ถนนรามคำแหง เชื่อมต่อ ถนนพระราม 9 เข้าสู่ New CBD รัชดาภิเษก” ขณะเดียวกัน หากเดินทางบน ถนนสีหบุรานุกิจ เชื่อมต่อ ถนนรามอินทรา ก็จะพบย่านที่เรียกได้ว่า “แสงสีเสียงครบรสในยามราตรี ไม่ว่า ร้านอาหาร หรือจะเป็น ร้านแฮงค์เอ้าท์ เลยทีเดียว

ภาพการเชื่อมต่อของทำเลใกล้เคียง

                       

          แน่นอนว่า ศักยภาพทำเลนี้ ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เพราะประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงสร้าง New S Curve และโคร่งขายรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วกรุงเทพนั้น ได้เกิดขึ้นในทำเลนี้

          รถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) มีกำหนดการเปิดบริการในปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่รถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ได้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถ Interchange เชื่อมต่อการเดินทางได้กับทุกสายสีที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า สายสีชมพู (สถานีมีนบุรี) ซึ่งเป็นสถานีใกล้โครงการ The Origin Ram 209 Interchange เพียง 80 เมตรอีกด้วย เรียกได้ว่าลูกบ้านของ The Origin Ram 209 Interchange ได้รับประโยชน์เดินทางสะดวกแบบเต็มๆ นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ยังเชื่อมต่อ สายสีเหลือง (สถานีลำสาลี) และ สายสีน้ำเงิน MRT (สถานีศูนย์วัฒนธรรม)  ด้วยเช่นกัน

          และเมื่อ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) เปิดให้บริการ ความสมบูรณ์ของการโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเกิดขึ้นทันที โอกาสของการเป็น Interchange เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า Airport Rail Link, สายสีเขียว, สายสีแดงอ่อน, สายสีม่วง เป็นต้น

            คาดว่า ตลอดเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีส้มกว่า 39.6 กิโลเมตร สามารถรองรับการเดินทางของ คนกรุงเทพ ได้กว่า 50,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง เลยทีเดียว

ภาพโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีส้มกับการเชื่อมต่อ Interchange รถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ

            นอกจาก ศักยภาพทำเล ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการลงทุนภาครัฐอย่าง โครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ปัจจุบันทำเลนี้เอง ก็เพียบพร้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวก ในการใช้ชีวิตแบบครบถ้วนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอีก หนึ่งทำเลที่สามารถรองรับการพักอาศัยของคนกรุงเทพได้ทุกช่วงวัยของชีวิต

เพียบพร้อมด้วย “สิ่งอำนวยความสะดวก” รองรับการใช้ชีวิตทุกช่วงวัย

            อย่างที่กล่าวไปข้าวต้น นอกจาก The Origin Ram 209 Interchange จะอยู่ใกล้ “สถานี Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพูแล้ว ยังตั้งอยู่บนถนนสายหลักอย่าง ถนนรามคำแหง บริเวณใกล้สี่แยก รามคำแหง-มีนบุรี ลูกบ้าน The Origin Ram 209 Interchange สามารถเดินทางไป ถนนวงแหวน ได้ในระยะทางเพียง 6.5 กม.เพื่อเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์เข้าเมือง(ทางด่วนศรีรัช)หรือไปบางนา/บางประอิน รวมทั้งสามารถเดินทางไปมอเตอร์เวย์ด้วยถนนร่มเกล้าได้ในระยะทางเพียง 9.8 กม.เพื่อเข้าเมือง(ทางด่วนศรีรัช)หรือไปชลบุรี เรียกได้ว่า รองรับการเดินทางไปสู่ทุกแหล่งงานของ คนกรุงเทพ ได้เลยทีเดียว  และยังสามารถเดินทางไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ใน 14 กม. อีกด้วย

            สำหรับ วัยเรียนวัยกำลังศึกษา  บอกได้เลยว่า ทำเลนี้มีสถานศึกษารองรับมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Interkid Billingual School, โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา(RIS), Heathfield International School เป็นต้น หรือจะเป็น โรงเรียนเอกชน เช่น โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า เป็นต้น รวมทั้ง โรงเรียนรัฐบาล เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า, โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า เป็นต้น

            ภายใต้รัศมี 7 กิโลเมตรจากที่ตั้งโครงการ The Origin Ram 209 Interchange พบ โรงพยาบาลรองรับการรักษา 5 แห่ง ด้วยกัน  เรียงลำดับตามระยะทางใกล้ไกล ได้แก่ รพ.นวมินทร์ 9, รพ. เสรีรักษ์, รพ. นพรัตรราชธานี, รพ. สินแพทย์ และ รพ. เกษราษฎร์ รามคำแหง

             นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ขาดไปไม่ได้ คือ แหล่งชอปปิ้ง นอกจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่างFashion Island แล้ว ทำเลนี้ยังมี ซุปเปอร์มาร์เก็ตหลากหลายแบรนด์พร้อมให้บริการ เช่น Tesco Lotus, Big C, Golden Place, Homepro  เป็นต้น รวมทั้ง Avenue น้อยใหญ่อย่าง Promenade , Amorini เป็นต้น

ภาพสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ The Origin Ram 209 Interchange

                  ด้านตัวเลขผลตอบแทนคอนโดมิเนียมโดยรอบที่ตั้ง The Origin Ram 209 Interchange สร้างรายได้ Passive Income ในรูปแบบค่าเช่าเฉลี่ย 5,000-7,000 บาทต่อเดือน สร้าง Rental Yield เฉลี่ย 4-5%ต่อปี อีกด้วย

            ทั้งหมดนี้ เป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้ประกอบการ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มองเห็นโอกาสรองรับความต้องการอยู่อาศัยบนทำเลเพียบพร้อมด้วย “สิ่งอำนวยความสะดวก” รองรับการใช้ชีวิตทุกช่วงวัย  พร้อมกับ “ศักยภาพอนาคต” จากการเป็น Interchange ของโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ที่กำลังจะเปิดบริการในปี 2566 นี้ 

The Origin Ram 209 Interchange คอนโดมิเนียมวิวเปิดโล่ง เชื่อมต่อ Interchange ฝั่งตะวันออกของคนกรุงเทพ

            โครงการ The Origin Ram 209 Interchange คอนโดมิเนียม High Rise 31 ชั้น บนที่ดินขนาด 4-0-87 ไร่ ริมถนนรามคำแหง บริเวณสถานี Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ของคนกรุงเทพ โครงการล่าสุดของผู้ประกอบการ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รองรับการพักอาศัยด้วยจำนวนยูนิต 1,007 ห้อง

ภาพคอนโดมิเนียม The Origin Ram 209 Interchange

          The Origin Ram 209 Interchange ด้วยความเป็นคอนโดมิเนียมสูง 31 ชั้น ทำให้ลูกบ้านของที่นี่ สามารถรับชมบรรยากาศมุมสูงของอาคารได้แบบ 360 องศา โดยไม่มีอาคารสูงบดบัง ในทุกช่วงเวลา

            ภาพบรรยากาศ 360 องศาโดยรอบ The Origin Ram 209 Interchange

          The Origin Ram 209 Interchange  มี พื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) รองรับกิจกรรมหลากหลายของลูกบ้าน แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ใน 4 ชั้นของอาคาร น่าสนใจ ดังนี้

ชั้น Ground จะพบ Double Volume Lobby, Mail Room, Co-Working Space และ ห้องประชุมกลาง (Meeting Room)

ชั้น 27 จะเป็น พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด มีห้อง Co-Kitchen, Private Dining Room รองรับกิจกรรมสังสรรค์ของลูกบ้าน นอกจากนี้ ยังมี Multi Function Studio และ Co-Passion room รองรับกิจกรรมทำงาน รวมทั้ง กิจกรรมการกีฬาด้วย Fitness และ Swimming Pool  

ชั้นดาดฟ้า จะเป็น สวนสีเขียว ให้ลูกบ้านได้มี พื้นที่เดินเล่น ชมวิวมุมสูง รับบรรยากาศ ได้ทุกช่วงเวลา



          นอกจาก พื้นที่ส่วนกลาง บนอาคารที่พักอาศัยแล้ว บริเวณชั้น 8 ของอาคารจอดรถ ถูกจัดสรรเป็นพื้นที่กิจกรรมทางกีฬา  Jogging Track, Sky Garden และ Street Basketball รองรับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพของลูกบ้านด้วยเช่นกัน



           

          ท้ายนี้  ทราบมาว่า The Origin Ram 209 Interchange กำลังเปิดจองครั้งแรก!  29 มิ.ย. นี้ กับราคาดีที่สุดในกรุงเทพฯเพียง 1.29 ล้านบาท  คลิก https://bit.ly/2KbyKxd ลงทะเบียนรับสิทธิ์  พร้อมสิทธิ์เข้ารับ PRIVILEGE CARD ที่โครงการ เพื่อใช้เป็น ส่วนลด 200,000 บ. ในการเข้าจอง ในวันงาน เท่านั้น!


#TheOrigin #LiveYourValue #EmpathyDesignThinking #จัดจ้านย่านอินเตอร์เชนจ์ #คอนโดใหม่ของคนมีนบุรี

ขอบคุณข้อมูลจาก Origin Property