5 มิ.ย. 2562 นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่นิ่ง และหวังว่าจะสามารถเห็นภาพที่ชัดเจนได้ภายในเดือน มิ.ย. นี้ เพราไม่เช่นนั้นอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น ส่งผลให้เลือกไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านแทน อาทิ เวีดยนาม และอินโดนีเซีย แน่นอนว่าย่อมทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสจากการชะลงทุนจากต่างชาติ

          ส่วนการลงทุนของบริษัทนั้นก็มีการชะลอออกไปเช่นเดียวกัน จากเดิมที่คาดการณ์ว่าหากมีรัฐบาลใหม่และการเมืองมีเสถียรภาพ น่าจะมีการลงทุนสำหรับปี 2562-2563 น่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมา 2-3 เท่า ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบันนับว่าช้าไป และหากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ก็อยากให้มีมาตรการเพื่อช่วยประชาชนระดับล่าง โดยเฉพาะการใส่เม็ดเงินลงไปเพื่อให้เกิดการจับจ่าย เพราะที่ผ่านมากำลังซื้อค่อนข้างชะลอตัว

          “การค้าขายก็เหมือนการขับรถยนต์ หากสถานการณ์ดีเราก็เร่งสปีด แต่ถ้าไม่ดีก็ถอยหรือเหยียบเบรค ซึ่งสภาพเศรษฐกิจเมืองไทยที่ผ่านมา ทั้งทางด้านการส่งออกและภายในประเทศ ก็ไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงในไทย คาดว่าการเติบโตของเครือฯ จากที่ตั้งไว้ 5-6% อาจโตได้เพียงเล็กน้อย หรือลดลงจากเป้าไปครึ่งหนึ่ง” นายบุณยสิทธิ์ กล่าว

          สำหรับการดำเนินธุรกิจเครือสหพัฒน์ปี 2562-2563 มีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม ทั้งในส่วนของการมีพาร์ทเนอร์เข้ามาเติมเต็ม เพื่อดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในสวนอุตสาหกรรมของเครือสหพัฒน์ ได้แก่ กบินทร์บุรี ลำพูน และแม่สอด ส่วนพื้นที่ในศรีราชาค่อนข้างเต็มแล้ว โดยพาร์ทเนอร์ดังกล่าวมาจากประเทศญี่ปุ่น มีมาร์เก็ตแค็ป 7-8 แสนล้านบาท และเป็นท็อปเท็นของการบริษัทเทรดดิ้งโซนในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 

          พร้อมกันนี้ ยังเตรียมร่วมมือกับกลุ่มโตคิว เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่หลังเจ พาร์ค คาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนกับธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ คิงส์คอลเลจ ย่านพระราม 3   

          นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการทดลองร้านค้าที่ไม่มีพนักงานคอยให้บริการ นับเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบสนองผู้บริโภค และยกระดับการบริการขึ้นทางหนึ่ง รวมถึงยังต้องมีการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่มองเทรนด์ปัจจุบัน แต่ต้องมองแนวโน้มอนาคตของสินค้าด้วย ที่ต้องเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่าง และเฉพาะกลุ่มกว่าเดิม

          อย่างไรก็ดี งานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 23 จะจัดขึ้นในวันที่ 27-30 มิ.ย.นี้ ณ ไบเทค บางนา ในคอนเซ็ปต์ “ว้าวถูกใจทุก Gen” โดยจะมีสินค้า บริการ รวมทั้งวัฒนธรรมที่หลากหลายที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกเจนเนอเรชั่น และกระตุ้นกำลังซื้อจากผู้บริโภคในช่วงนี้ทางหนึ่ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net