30 เมษายน 2562 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 รวม 4 มาตรการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะใช้งบประมาณที่ 1.32 หมื่นล้านบาท และ 6 มาตรการภาษี ประมาณการสูญเสียรายได้ที่ 7 พันกว่าล้านบาท รวมแล้วคาดว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังตั้งไว้ และย้ำว่าไม่ใช่มาตรการยาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นมาตรการพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ จากที่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจแผ่วตัวลงในช่วงไตรมาส 1/2562

          สำหรับมาตรการแจกเงิน 1,500 บาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายท่องเที่ยวในเมืองรอง ที่ผ่านมามีการศึกษาเรื่องนี้ เมื่อพิจารณาแล้วเป็นมาตรการที่เป็นยาแรง แต่ดูแล้วยังไม่คุ้มค่าที่จะนำมาใช้ในตอนนี้ จึงเว้นไว้ก่อน เมื่อใดก็ตามที่เห็นว่านำมาใช้แล้วเกิดความคุ้มค่าก็พร้อมพิจารณาทบทวน โดยต้องพิจารณาในแง่ เงินที่นำมาใช้ ความเร่งด่วนและจำเป็นที่จะใช้มาตรการ และผลที่ได้มีความคุ้มค่าหรือไม่

          “ตอนนี้ที่ สศค.เห็นตัวเลขเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีทิศทางชะลอตัวลง แต่ก็ไม่มาก เศรษฐกิจไทยไม่ได้ป่วยหนัก จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรง โดยยืนยันว่ามาตรการพยุงเศรษฐกิจครั้งนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจปีนี้ ขยายตัวเพิ่มได้ 0.1% จากคาดการณ์ 3.8% แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็จะมีความเสี่ยงกับการเติบโตของเศรษฐกิจ”นายลวรณ กล่าว

          นายลวรณ กล่าวว่า การเบิกจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้พิการจะเริ่มในวันที่ 9 พ.ค. – ก.ย.2562 คนละ 200 บาท, เกษตรกรจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. และจ่ายเงินให้ผู้ปกครองแบ่งเบาภาระอุปกรณ์การเรียน เริ่ม 8 พ.ค. ส่วนจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรเพื่อลดภาระปากท้องจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2562

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net