30 เมษายน 2562 นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ประจำไตรมาส 1/2562 โดยได้ดำเนินการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทั่วประเทศจำนวน 2,186 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี GSI ไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ระดับ 46.1 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2561 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 45.9 เนื่องจากประชาชนฐานรากมีความรู้สึกเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น จากการ ปรับขึ้นเงินเดือนของผู้ที่มีรายได้ประจำในช่วงต้นปี และราคาสินค้าเกษตรบางรายการเริ่มปรับตัวดีขึ้น อาทิ ข้าวหอมมะลิ และสินค้าหมวดปศุสัตว์

          สำหรับระดับ GSI ในอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 51.5 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 47.8 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากประชาชนฐานรากมีความคาดหวังด้านเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งว่ารัฐบาลใหม่จะสร้างความเชื่อมั่น ให้นักลงทุนและมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือ/สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อีกทั้งภาครัฐยังมีมาตรการ หรือโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เป็นต้น รวมทั้งผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรบางรายการปรับเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ มันสำปะหลัง ทำให้รายได้และกำลังซื้อของเกษตรกรกลุ่มนี้ดีขึ้น

          สำหรับปัจจัยเสี่ยง มาจากสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตที่ยังไม่มีความชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน มูลค่าการส่งออกสินค้าชะลอตัวลงตามปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลงจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ กระทบต่อรายได้และกำลังซื้อของเกษตรกรส่วนใหญ่

          ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นในด้านต่าง ๆ เทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ด้านความสามารถในการชำระหนี้ การหารายได้ และโอกาสในการ หางานทำปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนการจับจ่ายใช้สอย การออม และภาวะเศรษฐกิจปรับตัวลดลงเล็กน้อย

          “ศูนย์วิจัยฯ มองว่าประชาชนฐานรากมีความระมัดระวังการใช้จ่าย เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน โดยศูนย์วิจัยฯ คาดการณ์ว่าในไตรมาสหน้าดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากจะปรับตัวลดลงตามฤดูกาล เนื่องจากประชาชน มีภาระในการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเปิดเทอม และภาคการเกษตรเป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตสำคัญออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับการเมืองในประเทศยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น จึงควรมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายชาติชาย กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net