5 มี.ค.2562 น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) พร้อมทีมผู้บริหาร และคณะทำงาน สทร. ได้เข้าพบนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือถึงแนวทางการดูแลผลกระทบกับเศรษฐกิจและภาคธุรกิจนำเข้า-ส่งออก จากปัญหาค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่าขึ้นในช่วงปีนี้ และแนวทางในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน

“สรท.ได้ขอให้ ธปท.ดูแลค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค แต่หากอ่อนค่าลงได้มากกว่าภูมิภาค จะทำให้ผู้ส่งออกของไทยคลายความกังวลและช่วยให้สามารถบริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น” น.ส. กัณญภัค กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าเงินบาทในปีนี้ยังมีความผันผวน จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าและอ่อนค่า จากปัญหาส่งครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยตั้งแต้เดือน พ.ย. 2561 ให้ขยายตัวติดลบต่อเนื่อง จึงกังวลว่าการส่งออกปีนี้จะเติบโตต่ำกว่า 5% ตามที่ สรท.คาดการณ์ไว้ โดยจะต้องดูตัวเลขการส่งออกในไตรมาสที่ 1 ก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่จะดูแลไม่ให้ติดลบ และจากนั้นจะทบทวนเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ สรท. ยังยอมรับว่า ค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปีมีความเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เพราะต้องมองทิศทางในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลจาก ธปท.แล้ว ก็เข้าใจ เพราะ ธปท.ดูแลหลายภาคส่วน และจะไปย้ำให้สมาชิกใช้เครื่องมือการทำประกันความเสี่ยงและให้ซื้อขายเป็นเงินสกุลท้องถิ่นเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบัน ธปท.เปิดให้ทำการค้าขายต่างประเทศด้วยเงินสกุลท้องถิ่น 4 สกุล ประกอบด้วย หยวนของจีน, เยนของญี่ปุ่น, รูเปียห์ของอินโดนีเซีย และริงกิตของมาเลเซีย พร้อมกันนี้ยังต้องการเห็นประเทศในอาเซียนการค้าขายเงินสกุลของอาเซียนเองด้วย เพราะสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปอาเซียนมีสูงเกือบ 25%

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net