• ทุ่มงบลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า แตกต่างด้วยการออกแบบ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบลักชัวรี่กลุ่มดีมานด์คนเมืองรุ่นใหม่ Young Achiever
  • เพิ่มโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือปล่อยเช่าระยะยาว

          กรุงเทพฯ (16 ก.ค. 61) – เอพี (ไทยแลนด์) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง เดินหน้าเจาะดีมานด์คนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม ‘Young Achiever’ ที่มองหาคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเลชั้นนำใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ “เปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ LIFE - ‘Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์)’ และ ‘Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) ที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่พร้อมสนับสนุนสู่ความสำเร็จของคนรุ่นใหม่” พร้อมต่อยอดโอกาสการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคต ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 - 6% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มที่รองรับชีวิตดิจิตอลกับนวัตกรรมล้ำสมัย ยกระดับคุณภาพอสังหาริมทรัพย์ บนทำเลแห่งศักยภาพย่านลาดพร้าว และ อโศก - พระราม 9

          ประเดิมครึ่งปีหลังด้วย Life Ladprao Valley ซึ่งจะเปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันพฤหัสบดีที่ 26กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท

          นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า“บริษัทดำเนินการภายใต้เป้าหมายหลัก คือมุ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง โดยมีพันธกิจสำคัญในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว  ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Life ลาดพร้าว Life วิทยุ  Life อโศก-พระราม 9 และล่าสุดในไตรมาส1/2018 Life สุขุมวิท 62 โดยที่ทั้ง 4 โครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ โดยสามารถปิดการขายได้ถึงประมาณ 90%”

          “ความสำเร็จนี้มาจากการเลือกเฟ้นทำเลที่ดีเยี่ยม ใจกลางเมืองที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผนวกกับความใส่ใจในการออกแบบเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ใช้สอย การบริหารแพ็คเกจราคาขายที่เหมาะสมตรงกับดีมานด์ที่ลูกค้ามองหา ตลอดจนความมั่นใจในคุณภาพการก่อสร้าง การบำรุงรักษา และบริการหลังการขายของเอพี” นายวิทการ กล่าว

          “เพื่อรองรับตลาดคอนโดสำหรับลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achiever ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอพีจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียม โครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี และ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป- MECG) มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพศูนย์กลางธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมในวันนี้และอนาคต ได้แก่ 1) Life Ladprao Valley มูลค่าโครงการประมาณ 6,400 ล้านบาท โดดเด่นด้วยศักยภาพของทำเลแห่งอนาคต แวดล้อมด้วยเครือข่ายคมนาคมที่เป็นศูนย์กลางในการเดินทางเชื่อมต่อ  ใกล้รถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการปี 2563 และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธิน คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 - 6% โดยจะเปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 - 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2561 ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท และอีกหนึ่ง โครงการที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ได้แก่ 2) Life Asoke Hype  คอนโดมิเนียมบนทำเลศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ สูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 มูลค่าโครงการประมาณ 5,700 ล้านบาท” นายวิทการ กล่าวเสริม

          ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ดีมานด์ต่อตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนด์มีการ-ตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในย่านใจกลางทำเลธุรกิจ เช่น ลาดพร้าว และอโศก – พระราม 9 ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ CBDแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากศักยภาพทำเลทั้งความพร้อมในวันนี้และปัจจัยจากโครงการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ที่จะเข้ามายกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และ สุขุมวิทได้โดยตรง อีกทั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการความสะดวกสบาย และผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อเป็นอย่างมาก โครงการที่จะเข้าสู่ตลาดระดับนี้ต้องสร้างความแตกต่างทั้งภายในยูนิตพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อที่จะชนะใจคนเมืองที่กำลังมองหาคอนโดในทำเลนี้ ที่นับวันจะมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น

          สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเซกเมนท์กลางถึงบน ในสองทำเลศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมือง ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว และย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษกนั้น พบดีมานด์ที่มองหาคอนโดใหม่ติดแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 19 โครงการ ในราคาพรีเซลเฉลี่ย 158,000 บาทต่อตารางเมตร มียอดขายรวมกว่า 85% และย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษก พบคอนโดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ ราคาพรีเซลเฉลี่ยประมาณ  169,000 บาทต่อตารางเมตร และมียอดขายรวมแล้วกว่า 90% ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ สำหรับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า ระยะยาว (Rental Yeild) ของคอนโดพร้อมอยู่ทั้ง 2 ย่านที่กล่าวมานั้น พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ประมาณ 5 - 6% จึงนับว่าราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน

          “สำหรับเอพี (ไทยแลนด์) เรามุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์การพัฒนาไปสู่ ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพ การบริการ การอำนวยความสะดวกสบาย และความปลอดภัย รวมถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยเอง หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Life Ladprao Valley ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว และ Life Asoke Hype ใจกลางทำเลอโศก – พระราม 9 จึงเป็นโครงการลักชัวรี่คอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในใจกลางทำเลแลนด์มาร์คธุรกิจแห่งอนาคต ศูนย์กลางการคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ที่ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยสิ่งอำนวย-ความสะดวกที่ทันสมัย ช่วยส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และความสำเร็จให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจโดยตรงมาจากรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อตอบดีมานด์คนรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achieverอย่างแท้จริง” นายวิทการ กล่าวสรุป

          Life Ladprao Valley ลักชัวรี่คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ล่าสุดของเอพี ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบ “Live Your Adventurous Spirit” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากไลฟ์สไตล์ของคนเมืองกลุ่ม Young Achiever ที่พร้อมมอบประสบการณ์ อันเป็นที่สุดในทุกมิติของลักชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง สู่การต่อยอดความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยสูง 44 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 1,140 ห้อง ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1) สตูดิโอ ขนาด 28.80 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35 - 37 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.60 – 66.50 ตารางเมตร พร้อม Triple Facilities ในชั้น 6 ชั้น 44 และชั้น Mezzanine โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5.2.33 ไร่ ใจกลางทำเลลาดพร้าว ย่านธุรกิจและศูนย์กลางคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ พรั่งพร้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้ง โรงเรียน อาคารสำนักงาน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม สะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งอยู่บนทำเลเชื่อมต่อที่สำคัญและดีที่สุดบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เพียงหนึ่งก้าวจากรถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือเพียง 5 นาทีถึง MRT สถานีพหลโยธิน และใกล้ BTS สถานีหมอชิต และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางและสีสันการใช้ชีวิต

          Life Ladprao Valley บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2 ไร่ ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานความเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Triple Facilities ประกอบด้วย 1) The Avalon พื้นที่สวนแบบเล่นระดับพร้อมสระว่ายน้ำในพื้นที่ชั้น 6 ที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดแม้อยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง 2) Aqua Valley บน Rooftop ชั้น 44  เพิ่มประสบการณ์ของการออกกำลังกาย ด้วยสระว่ายน้ำพร้อมเครื่องออกกำลังกายภายใต้แนวคิดวารีบำบัด และ 3) Grand Valley Bay บนชั้นMezzanine โดดเด่นด้วย Crystal Alley สระว่ายน้ำพื้นกระจกใสบนชั้นสูงสุด พร้อมด้วย Elevated Lap Pool ยาว 35 เมตร และ Module Lounge ที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสทิวทัศน์สวนจตุจักรแบบพาโนรามา เป็นต้น

          ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2561) บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของโครงการทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียมและแนวราบได้มากถึง 17,300ล้านบาท เป็นยอดขายคอนโดมิเนียม 7,370 ล้านบาท และยอดขายสินค้าแนวราบ 9,930 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 52% ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 33,500 ล้านบาท) โดยมั่นใจว่าจากการเปิดตัว Life Ladprao Valley และ Life Asoke Hype จะสร้าง Talk of The Town และโกยยอดขายลักชัวรี่คอนโดมิเนียมล็อตใหญ่ส่งท้ายปี 2561 ได้อย่างแน่นอน  

          ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 บริษัทมีสินค้ารับรู้รายได้ (backlog) มูลค่ามากถึง 52,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 43,000 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) โดยจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้มูลค่าประมาณ 10,300 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยการรับรู้ไปจนถึงปี 2565 และทางบริษัทมีคอนโดมิเนียมคงเหลือขายประมาณ 10,800 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก www.apthai.com