แม้ว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ขณะนี้ดูจะมีความผันผวนอย่างมาก จากปัจจัยกดดันที่หนักไปทางด้านลบจากเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีความเชื่อว่า โอกาสยังคงมีอยู่ในทุกวิกฤติเสมอ สำหรับ กลุ่มโรงพยาบาล นักลงทุนยังคงให้ความสนใจในการลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อยู่ไม่น้อย ภาพรวมกลุ่มนี้ดูมีแนวโน้มสดใสในอนาคต ตามตัวเลขผลดำเนินงาน แม้ว่าบางบริษัทจะเน้นความสำคัญไปในด้านการลงทุนขยายขนาดธุรกิจ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีในอนาคต แต่ก็น่ากังวลสำหรับฐานะการเงินปัจจุบัน

TerraBKK Research รวบรวม ผลประกอบการบริษัทไตรมาส 3 ปี 2559 (9M/2559) ของกลุ่มอุตสาหกรรม “โรงพยาบาล” ทั้งสิ้น 19 บริษัท ประกอบด้วยตัวเลขและอัตราส่วนทาการเงิน ได้แก่ รายได้ (Revenue) ,อัตรากำไรสุทธิ (NPM) ,กำไรต่อหุ้น (EPS) , เงินสดสุทธิ (Net Cash Flow ) , อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE),อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) และ หนี้สินต่อทุน ( D/E ) รายละเอียดดังนี้ 1. รายได้ (Revenue) ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงพยาบาล 9M/2559 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด มีเพียง วัฒนาการแพทย์ (NEW) ลดลง 5.7% จากไตรมาส3 ปี2558 โดย 3 อันดับแรก ที่มีจำนวนเงินรายได้ไตรมาส 3 สูงสุดของกลุ่ม ได้แก่ กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ,โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) และ สมิติเวช (SVH) ขณะที่บริษัทที่มีเปอร์เซ็นต์รายได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (9M/2558) สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนบุรี เมดิเคิล เซ็นเตอร์ (KDH), ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) , ศิครินทร์ (SKR), โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) และ บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH)

2.อัตรากำไรสุทธิ ( Net Profit Margin : NPM) 9M/2559 ของอุตสาหกรรมนี้ มีทั้งตัวเลขที่ดีขึ้นและแย่ลง โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอัตรากำไรสุทธิราว12% โดย 3 อันดับแรกที่มีอัตราส่วนกำไรสุทธิดีที่สุด ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) 27.1% ,โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) 20.4% และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) 15.8% ขณะเดียวกัน บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (9M/2558) ก็คือ เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ (CMR) และ โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA)

3. กำไรต่อหุ้น (Earning per Share : EPS) สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงพยาบาลในช่วง 9M/2559 นี้ มีช่วงตัวเลขค่อนข้างกว้าง เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ มีตั้งแต่หลักหน่วยไปจนถึงหลักพันบาทต่อหุ้น หากเปรียบเทียบตัวเลขกำไรต่อหุ้นกับราคาหุ้นในตลาดจะพบว่าอยู่ในช่วงเฉลี่ย 1-3% เมื่อติดตามผลประกอบการแล้วพบว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีก็แสดงว่าบริษัทมีผลดำเนินงานดี น่าสนใจเข้าลงทุน ทั้งนี้ สำหรับบริษัทที่มีตัวเลขกำไรต่อหุ้น 9M/2559 สูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) 75.02 บาทต่อหุ้น ,สมิติเวช (SVH) 10.05 บาทต่อหุ้น และ โรงพยาบาลมหาชัย (M-CHAI) 9.31 บาทต่อหุ้น

4. เงินสดสุทธิ (Net Cash Flow ) แสดงการเคลื่อนไหวของเงินทุนผ่านการดำเนินงานของบริษัททั้ง 3 กิจกรรม อันได้แก่ กิจกรรมดำเนินงาน ,กิจกรรมลงทุน,กิจกรรมจัดหาเงิน หากผลลัทธ์ออกมาเป็นตัวเลขติดลบ แสดงว่า ขณะนั้นบริษัทมีสถานะเงินสดไหลออกมากกว่าเงินสดไหลเข้า จุดนี้เองอาจส่อสัญญาณขาดสภาพคล่องในการดำเนินงานได้ ทั้งนี้พบว่า 3 อันดับแรกที่มีตัวเลขเงินสดสุทธิติดลบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) , โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) และ บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการลงทุนเพื่อขยายขนาดธุรกิจ

5. อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) 9M/2559 ของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ มีค่าเฉลี่ยราว 13.7% โดย 3 อันดับแรกที่มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นดีที่สุด ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) 27.8% ,โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 20.2% และ สมิติเวช (SVH) 19.6% ขณะเดียวกัน บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (9M/2558) สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) , บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) และโรงพยาบาลมหาชัย (M-CHAI)

6. อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset : ROA) ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงพยาบาล 9M/2559 นี้ พบทั้งตัวเลขดีขึ้นและแย่ลงเมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (9M/2558) โดยภาพรวม 9M/2559 มีค่าเฉลี่ยราว 12% สำหรับ 3 อันดับแรกที่มีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์สูงสุด ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) 21.6%, โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 21.6% และ สมิติเวช (SVH) 18.2%

7. หนี้สินต่อทุน ( Debt to Equity : D/E ) ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงพยาบาล 9M/2559 นี้ ส่วนใหญ่มีค่าไม่เกิน 1 เท่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี มีเพียง 2 บริษัท คือ บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) 1.19 เท่า และ โรงพยาบาลมหาชัย (M-CHAI) 1.22 เท่า ซึ่งไม่เกิน 2 เท่า สรุปได้ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีการบริหารความเสี่ยงด้านโครงสร้างเงินทุนค่อนข้างดี --เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก