"เมื่อผ่อนบ้านไปในระยะเวลานานๆ แล้วเริ่มรู้สึกว่าเป็นการผ่อนที่ไม่คุ้มค่า เนื่องจากดอกเบี้ยที่พอกพูน จนผ่อนไปเท่าไหร่ก็ไม่แตะเงินต้นสักที มองไปในระยะยาวอาจทำให้ผ่อนไม่ไหว แต่ยังอยากรักษาบ้านไว้ หรือมีเงื่อนไขที่ดีกว่า การรีไฟแนนซ์บ้าน คือตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ"

รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร หากอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ การรีไฟแนนซ์คือการเปลี่ยนเจ้าหนี้ โดยเอาเงินจากเจ้าหนี้รายใหม่ไปโปะหนี้ก้อนเก่า เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า สามารถผ่อนไหว อาจจะเป็นจากธนาคารหนึ่งไปเป็นอีกธนาคารหนึ่ง หรือธนาคารเดิมภายใต้เงื่อนไขด้านดอกเบี้ยที่ดีกว่า โดยใช้สินทรัพย์ชิ้นเดิมเป็นตัวค้ำประกัน

สาเหตุที่ต้องรีไฟแนนซ์ เกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ มองเห็นโอกาสและเงื่อนไขด้านดอกเบี้ยที่ดีกว่า กับต้องการพักหายใจเพื่อจัดระบบบริหารทางการเงินของตัวเองใหม่  เหตุผลแรกควรทำในกรณีที่ดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อบ้านในปัจจุบันถูกลงกว่าสัญญาเดิมมาก จะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้หลายปี

ส่วนการรีไฟแนนซ์เพื่อจัดระเบียบทางการเงินใหม่ มักมีสาเหตุมาจากภาระหนี้ที่มีเข้ามาหลายทาง และผู้กู้ต้องการจ่ายหนี้ค่าบ้านต่อเดือนน้อยลง รวมทั้งได้ส่วนต่างมาใช้จ่าย

ทั้งสองกรณีจะคุ้มค่าหากเป็นการจ่ายที่น้อยลงในระยะยาวเท่านั้น หากสามารถผ่อนชำระหนี้เดิมให้หมดได้ในเวลาไม่เกิน 1 - 2  ปี ไม่ควรรีไฟแนนซ์

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์ เหมือนกับขั้นตอนการยื่นขอกู้ใหม่ทุกอย่าง ทั้งด้านเอกสาร และขั้นตอนปฏิบัติ ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ แบ่งออกเป็น 3 ก้อนด้วยกันคือ

  1. ค่าใช้จ่ายกับสถาบันการเงินเดิม ได้แก่ ค่าปรับในกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งระยะเวลาโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3 ปีนับจากวันเริ่มกู้ ประมาณ 2-3% ของยอดหนี้
  2. ค่าใช้จ่ายให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าหลักประกัน ค่าธรรมเนียมการใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ และค่าธรรมเนียมการทำประกันอัคคีภัยเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หากยังมีกรมธรรม์เดิมอยู่ สามารถแจ้งยกเลิกการโอนผลประโยชน์จากสถาบันการเงินเดิม เพื่อเปลี่ยนให้สถาบันการเงินแห่งใหม่เป็นผู้รับผลประโยชน์
  3. ค่าใช้จ่ายให้กับกรมที่ดิน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ และค่าอากรแสตมป์อีก 0.05%

           ท้ายนี้ TerraBKK แนะนำว่า ใครสนใจอยากจะ รีไฟแนนซ์ (Refinance) ลองสำรวจตนเองก่อนว่า มีลักษณะไม่ผ่านเกณฑ์ธนาคารหรือไม่ ? เพราะหากเคยมีประวัติค้างชำระหนี้มาก่อน, ลูกค้ามีภาระหนี้สูง, ยังอยู่ในช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนชำระหนี้ เป็นต้น ดูจะไม่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เป็นแน่

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก