"บ้าน ถือเป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่ได้มาด้วยการลงทุนก้อนใหญ่ จึงต้องผ่านการไต่ตรองมาเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจ แม้ว่าในปัจจุบันความคิดอยากมีบ้านถูกทำให้เป็นรูปธรรมจับต้องง่ายยิ่งขึ้น ด้วยโครงการสินเชื่อเพื่อการมีบ้านจากสถาบันการเงินต่างๆ ที่พาเหรดกันมาให้เลือกสรร แม้ตัวช่วยจะมีมากมาย แต่คนอยากมีบ้านทั้งหลายก็ต้องตรวจสอบความพร้อมในการขอสินเชื่อของตัวเองก่อน" 

          มีความมั่นคงและสภาพคล่อง  เพราะการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ นั้น ต้องการเสถียรภาพทางการเงินของผู้ขอกู้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีต้นทุนเป็นเงินดาวน์ 10% – 20% เป็นอย่างน้อย ต้องมีเงินออมจำนวนหนึ่งควบคู่ไปกับเงินเดือนที่มั่นคงในฐานเงินเดือนที่จะสามารถรับภาระหนี้ในระยะยาวได้ นอกจากนี้ทางสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อยังต้องการความมั่นใจ โดยขอพิจารณาจากภาระหนี้เดิมของผู้กู้เป็นส่วนประกอบอีกด้วย ดังนั้นทางเลือกมีมาก แต่ก็มีเงื่อนไขมากเป็นเงาตามตัว ซึ่งเงื่อนไขหลักๆ ที่ธนาคารจะรับพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
          วงเงิน สถาบันการเงินจะปล่อยกู้โดยพิจารณาจากราคาประเมินของสินทรัพย์ โดยจะให้วงเงินประมาณ 80% - 90% ทางธนาคารอาจจะปล่อยกู้เพิ่มได้หากมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น อาชีพ ความมั่นคง ความก้าวหน้า ความสามารถในการผ่อนชำระ หรืออาชีพเสริมที่ทราบที่มา ความสามารถในการชำระหนี้ จะพิจารณาจากเงินเดือนและรายได้ โดยจะไม่เกิน 35% -40% ของรายได้ต่อเดือนซึ่งเป็นจำนวนที่สามารถผ่อนชำระได้ โดยต้องสอดคล้องกับวงเงินกู้ที่ตั้งไว้
          อัตราดอกเบี้ย แบ่งอกเป็น 2 ประเภท คืออัตราดอกเบี้ยลอยตัวและอัตราดอกเบี้ยคงที่ หากดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น คือมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้พยายามเลือกอัตราดอกเบี้ยคงตัวที่นานที่สุดที่มีในโปรโมชั่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว
         เอกสารประกอบการขอสินเชื่อ คือเอกสารเพื่อแสดงทรัพย์สินต่างๆ เช่น สลิปเงินเดือน บัญชีเงินเดือน บัญชีซึ่งมีเงินหมุนเวียนอย่างน้อย 6 เดือน ในกรณีเป็นเจ้าของกิจการต้องมีทะเบียนการค้า
         ค่าใช้จ่าย  เช่น ค่าประเมิน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลาง ค่าจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ฯลฯ