เมื่อก้าวสู่วัยที่ธุรกิจหรือหน้าที่การงานเริ่มลงตัว หลายคนเริ่มมองหาความมั่นคงให้ชีวิต ด้วยการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ บ้านมือสอง ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์และความจำเป็นในชีวิตของแต่ละคน ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว 

         แต่สำหรับใครที่มีธงในใจชัดเจนว่าอยากจะซื้อบ้านมือหนึ่ง ดีลตรงกับโครงการ เช็คลิสต์ในการเตรียมพร้อมอาจไม่ยุ่งยากเท่ากับคนที่ตัดสินใจ ซื้อบ้านมือสอง เพราะนอกจากจะต้องตรวจสุขภาพการเงินแบบชุดใหญ่แล้ว ยังมีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องใส่ใจ 

         อย่างไรก็ตามถึงการ ซื้อบ้านมือสอง จะยุ่งยากกว่า แต่ไม่ต้องหนักใจ แค่มีเช็คลิสต์ในใจ 5 ข้อนี้ การกู้ ซื้อบ้านมือสองให้ราบรื่นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

         1.เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม ใครที่ยังติดภาพว่าอยากได้บ้านใหม่ รถใหม่ ต้องเริ่มต้นจากหาเงินผ่อนดาวน์ เคลียร์ชัดตรงนี้เลยว่า ถ้ามีคำว่ามือสองพ่วงท้าย ไม่มีการผ่อนดาวน์ทุกกรณี ดังนั้นผู้ขอสินเชื่อจึงต้องเก็บออมเงินก้อนใหญ่เพื่อดาวน์บ้านเองก่อนขอ สินเชื่อบ้านมือสอง นอกจากนี้ ใครที่คิดจะ ซื้อบ้านมือสอง เพราะมองถึงข้อได้เปรียบที่นอกเหนือจากเรื่องโครงสร้างอาคารที่แข็งแรง โลเคชั่น ยังได้สำรวจสภาพแวดล้อมจริงแบบไม่ต้องมโน อาจต้องเตรียมเงินไว้เพื่อเป็นค่าส่วนต่างที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากการกู้ ซื้อบ้านมือสอง โดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (เลือกที่ต่ำกว่า) เท่ากับว่าผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินก้อนไปจ่ายให้กับผู้ขายในวันโอนบ้านอยู่ที่ประมาณ 20% ของราคาซื้อขาย ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการที่สามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ ก่อนการยื่นกู้จริง

         นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายที่ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องรับผิดชอบ อาทิ ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (แบ่งกันชำระฝ่ายละ 1% หรือตามแต่ตกลง) ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (ควรเป็นภาระของผู้ขาย) ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร (ควรเป็นภาระของผู้ขาย) ค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าที่จำนอง (ควรเป็นภาระของผู้ซื้อ) เป็นต้น ทั้งนี้หากไม่อยากปวดหัวหรือหมางใจกันภายหลัง แนะนำให้ตกลงกันตั้งแต่ตอนทำสัญญาจะซื้อจะขาย

         2.เตรียมพร้อมลุยหรือยัง หากซื้อบ้านมือหนึ่งผ่านโครงการ ผู้ซื้อค่อนข้างเบาใจเรื่องเอกสารการขอสินเชื่อไปได้เลย เพราะมีเจ้าหน้าที่โครงการคอยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านเอกสาร สัญญาต่างๆ และติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ แต่หากเป็นการ ซื้อบ้านมือสอง หลังจากเจอบ้านที่ถูกใจ ผู้ซื้อต้องเดินหน้าลุยเองตั้งแต่ติดต่อกับผู้ขายเพื่อตกลงราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งจะมีการระบุราคาที่ได้ตกลงซื้อขายกันไว้อย่างชัดเจน พร้อมรายละเอียดการจ่ายเงินมัดจำ และกำหนดเวลาสำหรับจ่ายเงินส่วนที่เหลือ เผื่อในกรณีที่ผู้ซื้​​อไม่สามารถชำระเงินส่วนที่เหลือได้ตามระยะเวลาที่กำหนดผู้ขายมีสิทธิยึดเงินมัดจำ 

         นอกจากนี้ยังอาจมีการตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นไว้ในสัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง ทั้งนี้เมื่อตกลงและทำสัญญาจะซื้อจะขายกันเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะต้องนำสัญญาจะซื้อจะขาย พร้อมสำเนาโฉนดที่ดินที่ได้จากผู้ขายไปใช้เป็นเอกสารในการยื่นกู้

         3.เตรียมตัวพร้อมสำหรับติดต่อขอสินเชื่อกับธนาคาร การขอ สินเชื่อบ้านมือสอ นั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าการขอสินเชื่อบ้านใหม่  โดยนอกจากผู้ซื้อหรือผู้กู้จะต้องเตรียมเอกสารแสดงตนและเอกสารทางการเงินที่แสดงแหล่งที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ยังต้องนำสัญญาจะซื้อจะขายและสำเนาโฉนดที่ดินที่ได้มาจากผู้ขาย ยื่นกับธนาคารเพื่อให้ประเมินราคาทรัพย์สินต่อไป โดยหลังจากที่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านมือสองกับธนาคารเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อ ผู้ขาย และธนาคาร ต้องนัดวันโอนที่สำนักงานที่ดิน ในวันนัดหมาย เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจะให้ผู้ขายทำการโอนบ้านให้ผู้ซื้อ และ​ผู้ซื้อจะนำบ้านไปจำนองต่อให้กับธนาคาร เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงิน โดยผู้ขายจะได้รับเงินจากการขายบ้านทั้งหมดในวันนั้น ดังนั้นการโอนบ้านและจำนองจะต้องทำให้เสร็จสิ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่สามารถไปดำเนินการด้วยตนเองได้สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทนได้ 

         4.สำรองเงินไวพอหรือยังสำหรับซ่อมแซมบ้านด้วย ใครที่ได้ บ้านมือสอง มาในสภาพดี พร้อมเข้าอยู่แบบไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมอะไรมาก ถือเป็นความโชคดี แต่หากซื้อบ้านตามสภาพ ผู้ขอสินเชื่อต้องเตรียมงบไว้สำหรับการซ่อมแซมหรือตกแต่งใหม่ เพราะธนาคารมักจะไม่มีวงเงินให้กู้เพิ่มเติมสำหรับการซ่อม บ้านมือสอง แตกต่างจากสินเชื่อบ้านใหม่ที่ธนาคารมักจะแถมวงเงินเพิ่มสำหรับการตกแต่งต่อเติมให้ผู้ขอสินเชื่อด้วย

         5.ใจร้อนเกินไปหรือเปล่า เช็คลิสต์ข้อสุดท้าย สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วยังไม่ได้รู้สึกว่าเจอ บ้านมือสอง ในฝันอย่างแท้จริง ขอให้ชั่งใจถามตัวเองให้ชัวร์ว่ามีความจำเป็นในชีวิตแค่ไหนที่ต้อง ซื้อบ้านมือสอง ตอนนี้  อาจรอจังหวะเข้าซื้อที่เหมาะสม จากการติดตามสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ ถึงแนวโน้มราคา รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ อาจจะได้ราคาที่สบายกระเป๋าขึ้น ที่สำคัญก่อนตัดสินใจอย่าลืมเปรียบเทียบข้อมูลการกู้เงินซื้อบ้านเพราะสถาบันการเงินแต่ละแห่งอาจมอบข้อเสนอที่แตกต่างกัน เช่น วงเงินกู้สูงสุด ระยะเวลาของการให้กู้ ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย เช่น ช่องทางการชำระเงินค่างวด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ขอสินเชื่อนั่นเอง

         TerraBKK ช่วยคุณได้เข้าใกล้ธนาคารมากขึ้น บริการฟรี ใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ คลิ๊ก >>> www.terrabkk.com/refinance