การมองหาพื้นที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนหรือเพื่อการอยู่อาศัยในปัจจุบันนั้น ดูเหมือนจะไม่ถูกจำกัดเฉพาะในพื้นที่ตัวเมืองกรุงเทพมหานครอีกต่อไป ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะประเทศไทยกำลังอยู่ในยุคสมัยของการลงทุนขยายโครงข่ายคมนาคม  ศักยภาพพื้นที่ทำเลชานเมืองรอยต่อกรุงเทพจึงดูโดดเด่นมากขึ้น เช่นเดียวกับพื้นที่แถบสุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปสู่สมุทรปราการ และยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) ในอนาคต กลายเป็นหนึ่งทำเลที่มีแนวโน้มการพัฒนาพื้นที่อย่างชัดเจน

          โอกาสนี้ ลองมาเจาะลึกข้อมูลกันดูว่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณจุดเชื่อมต่อเข้าเมืองอย่าง “ย่านสุขุมวิท-เทพารักษ์” มีความน่าสนใจอย่างไร  จึงเตะตา  “ออริจิ้น” แบรนด์อสังหาชื่อดังของประเทศไทย ตัดสินใจพัฒนาโครงการบนพื้นที่แห่งนี้  รายละเอียดดังนี้

การพัฒนาที่ดินของ “ทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์”

          ไม่แปลกใจ หากราคาประเมินที่ดินล่าสุด รอบปี 2559-2562 ในทำเลชานเมืองสุขุมวิทตอนปลายอย่าง “ทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์” จะมีการปรับตัวสูงกว่า 15-20% จากรอบปีประเมินที่ผ่านมา จากการเป็นพื้นที่รองรับผลประโยชน์และมีแนวโน้มความเจริญเติบโตของพื้นที่อย่างชัดเจน


          “รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวใต้” เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2542 และยังคงขยายเส้นทางอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากขยายบริการเพิ่มขึ้น 1 สถานี (สำโรง) ในปี 2560 และ ถัดมาช่วงปลายปี 2561 เปิดขยายเส้นทาง (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ทดลองให้ประชากรนั่งฟรียาวถึง 6 เดือน ก่อนเปิดเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน 2562 นี้  

          ขณะเดียวกัน “ทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์” ยังเป็นพื้นที่รองรับ “โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)” ที่จะเข้ามาเติมเต็มโครงข่ายคมนาคมพื้นที่กรุงเทพมหานครโซนตะวันออกได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น  เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้วยสถานีสำโรงอินเตอร์เชนจ์ เข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพได้อย่างสะดวก ตลอดเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในบริเวณนี้ ล้วนเกิดขึ้นบนเส้นทาง “ถนนเทพารักษ์” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ถนน ที่มีขนาด 4 เลนบนแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่านกลางซอย เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ รอบรับการเดินทางด้วยรถยนต์ เช่นกัน

          และหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ลูกบ้านคอนโดมิเนียมมองหา ย่อมเป็นเรื่องการเดินทางสะดวกอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า “ออริจิ้น” เข้าใจถึงความต้องการนี้อย่างดี ได้คัดสรรแปลงที่ดินผืนงามบนถนนเทพารักษ์ ขึ้นโครงการ Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK  ในระยะ 0 เมตรจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ( สถานีทิพวัล ) เชื่อมต่อ Interchange รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีสำโรง) นอกจากผลประโยชน์จากการพัฒนาที่ดิน 2 สายรถไฟฟ้าแล้ว สำหรับถนนเทพารักษ์เอง ซึ่งมีขนาด 8 เลน สามารถรองรับการพัฒนาที่ดินหลากหลายจากภาคเอกชนได้อีกมาก เรียกได้ว่า Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK ตั้งอยู่บนทำเลรองรับการพักอาศัยของคนทำงานในตัวเมืองกรุงเทพ และยังมีโอกาสด้านความเติบโตของพื้นที่อีกมากในอนาคตอีกด้วย

ความคึกคักของ “สิ่งอำนวยความสะดวก” หลากหลาย

          ความเจริญเติบโตด้านการลงทุน “ทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์”  นอกจากโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมข้างต้นแล้ว ภาคเอกชนเองก็เข้ามาพัฒนาที่ดินหลากหลายวัตถุประสงค์เช่นเดียวกัน  ผลประโยชน์นี้ ย่อมทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนในทำเลนี้ เป็นเรื่องง่ายและสะดวกดีเหลือเกิน เพราะไม่ว่าจะเชื่อมต่อไปยัง ถนนสุขุมวิทตอนปลาย, ถนนศรีนครินทร์ หรือ ถนนบางนา-ตราด ล้วนเป็นที่ตั้งของแหล่งกิจกรรมหลากหลายด้านของคนกรุงเทพ

          แหล่งชอปปิ้งไลฟ์สไตล์ ของคนกรุงเทพยุคนี้ ต้องยกให้ “ศูนย์การค้า” หรือ Community Mall  อย่างบนถนนเทพารักษ์ สามารถพบ Palm Island Mall ห่างเพียง 150 เมตร จาก Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK  พร้อมตัวเลือกอีกมากมายให้ลูกบ้านได้ลองใช้ประสบการณ์จับจ่ายใช้สอย ภายใต้ 5 กิโลเมตร อาทิ  Imperial World Samrong, Central  Bangna, Mega Bangna เป็นต้น และหากขยับออกไปยังถนนศรีนครินทร์ อาทิ Paradise Park, Seacon Square เป็นต้น

          ด้วย “ความคึกคักของผู้คน” ในทำเลนี้ นอกจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติทั้งเอเชียและยุโรปที่ขยายตัวมาจากทำเลสุขุมวิท จะเข้ามามองหาที่พักอาศัยชั่วคราว ใกล้เมืองแนวรถไฟฟ้า ในราคาค่าเช่าที่ถูกกว่าในตัวเมืองแล้ว ภายในพื้นที่สุขุมวิท-เทพารักษ์เอง ยังมีแหล่งงานหลากหลายประเภท อาทิ ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ หรือ กลุ่มบริษัทเอกชนโซนเทพารักษ์ เป็นต้น แน่นอนว่า “คอนโดมิเนียม” ได้กลายเป็นหนึ่งประเภทที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 4-5% ต่อปี ด้วยอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60-70% เลยทีเดียว       

          การเลือกซื้อคอนโดมิเนียม ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า  นอกจากเลือกทำเลดี มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตแล้ว ต้องไม่ลืมคำนึงถึงความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย “ออริจิ้น” พร้อมแล้ว สำหรับการพัฒนาโครงการ Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ติดรถไฟฟ้าระยะ 0 เมตร ในระดับราคาที่จับต้องได้ เชื่อมโยงทุกการใช้ชีวิตจริง บน “ทำเลสุขุมวิท-เทพารักษ์”

โอกาสใหม่ ของ การลงทุนคอนโดมิเนียม

          นอกจากจุดขายสำคัญ ด้านทำเลที่ตั้งโครงการ ดังกล่าวไปข้างต้นแล้ว “ออริจิ้น” ยังดึง “เอกลักษณ์โครงการ” เปรียบดั่ง “เพชรเม็ดโตเจิดจรัส” บนทำเลศักยภาพสุขุมวิท-เทพารักษ์

          Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK  คอนโดมิเนียม High Rise สูง 35 ชั้น บนที่ดินขนาด 1-3-54 ไร่  ด้วยงบลงทุนกว่า 1,310 ล้านบาท รังสรรค์ห้องชุดพักอาศัย 474 ยูนิต  ที่จอดรถ Auto Parking 49% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ (Facilities) รองรับทุกความต้องการ  คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564

  • ห้องชุดพักอาศัย จะอยู่ชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้น Residential & Garden และถูกจัดสรรอยู่ใน 2 ช่วงชั้น นั้นคือ ชั้น 12-29 และ ชั้น 31-35 เป็นห้องพักขนาดพื้นที่ 23-55 ตารางเมตร  ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท

  • Facilities หลากหลายประเภท รองรับความต้องการของใช้งาน กระจายอยู่หลากหลายชั้นภายในโครงการ อาทิ  ชั้น Ground  ประกอบด้วย Lobby, Drop off, Garden Parking และ เทคโนโลนียุคดิจิตอล EV Charger เป็นต้น , ชั้น 2 จะเป็น Residential Lounge นอกจากนี้ ยังมี Rooftop Facility ชมทัศนียภาพเมืองบนชั้นดาดฟ้า

   

         

          และ ด้วยความโดดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุด  Rooftop Facility สวนชั้นดาดฟ้า พร้อมจุดชมวิวรอบทิศ 360 องศา ตอกย้ำจุดเด่นแบรนด์ Knightsbridge ให้แตกต่างจากโครงการอื่นในย่านเดียวกัน  

          ทั้งหมดนี้ ล้วนสะท้อนถึงความตั้งใจจริง Knightsbridge SUKHUMVIT-THEPHARAK  ของ “ออริจิ้น” ถึงความใส่ใจรายละเอียดโครงการ, ความปลอดภัยในการพักอาศัย, จำนวนยูนิคไม่มาก  บนทำเลศักยภาพ  ในระดับราคาที่สามารถจับต้องได้  ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุนคอนโดมิเนียมปล่อยเช่ารอบรับมนุษย์เงินเดือนกรุงเทพ รวมทั้ง ประชากรพื้นที่ที่ต้องการแยกครอบครัวแต่ยังไม่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบ  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Call Center 020 300 000  และ เว็บไซต์  https://bit.ly/2REwSSO

ขอบคุณข้อมูลจาก origin.co.th