SENA เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ "WE SOLAR" ผู้เชี่ยวชาญโซลาร์รูฟท็อปในไทย ต่อยอดธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าครบ 360 องศา

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ผู้นำอสังหาฯ ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ก้าวอีกสเต็ป เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท WE SOLAR ผู้เชี่ยวชาญด้านติดตั้งและวางระบบโซลาร์รูฟท็อป สอดคล้องแนวคิด Go Green Grow Growth Solar Business อย่างครบวงจร ต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ-ทำพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" มั่นใจ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย ทำให้มี Economy of Scale และเสนาฯ สามารถตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้ครบ 360 องศา - WE SOLAR ได้ฐานลูกค้าเพิ่ม

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ "WE SOLAR" บริษัทผู้ประกอบการติดตั้งและวางระบบวิศวกรรมโซลาร์รูฟท็อป (Engineering, Procurement, and Construction หรือ EPC) โดยการเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนแนวคิดของบริษัทฯ ในเรื่อง Go Green Grow Growth Solar Business อย่างครบวงจร ทั้งในแง่ลูกค้า และในแง่ของบริษัทฯ สามารถนำเสนอบริการลูกค้าได้ครบ 360 องศา เริ่มตั้งแต่ตอนที่ลูกค้าซื้อบ้าน หรือหลังจากเข้าอยู่อาศัยแล้ว ลูกค้าจะได้รับคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ เช่น การคำนวณการประหยัดไฟ, คำแนะนำว่าแผงอย่างไหนจะคุ้มค่าสำหรับลูกค้าแต่ละราย และการดูแลรักษาแผง เป็นต้น

“เรามีความเชื่อมั่นและสนับสนุนในพลังงานทางเลือกเสมอมา การที่เราได้มีส่วนร่วมในบริษัท We Solar ผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการติดตั้งและวางระบบวิศวกรรม (EPC) โซลาร์รูฟท็อป ซึ่งได้รับอนุญาตจากการพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถจะตอบโจทย์การบริการทั้งก่อนและหลังการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี”ผศ.ดร.เกษรากล่าว

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า เสนาฯ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย การที่มีการบริการอย่างครบวงจรให้ลูกค้าเรื่องโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และไว้วางใจมากขึ้น เพราะลูกค้าที่สนใจบ้านติดโซลาร์รูฟท็อปสามารถจะปรึกษาได้ตั้งแต่เริ่มซื้อบ้าน หรือจะตอนที่ลูกค้าเข้าอยู่แล้วก็ได้ รวมทั้งสามารถช่วยลูกบ้านให้สร้างมูลค่าให้บ้านของลูกค้าโดยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขายไฟให้กับทางภาครัฐ หรือนำไฟฟ้ามาเอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายได้

นอกจากนี้ เสนาฯ ยังมองว่าธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้สูง เห็นได้จากที่ต่างประเทศให้ความสำคัญ และติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปกันสูงมาก ประกอบกับทางเสนาฯ เอง มีโครงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 20 โครงการที่สามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้ รวมกว่า 2,000 ยูนิต โดยได้เริ่มต้นไปที่โครงการบ้าน 4 โครงการ และกำลังขยายสู่โครงการอื่นๆ ที่สามารถดำเนินการได้อีก ดังนั้น การที่บริษัทเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารร่วมกับผู้ถือหุ้นเดิมของทาง "We Solar" จะทำให้การกำหนดนโยบายของบริษัทเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสอดคล้องกับนโยบายหลักของทางเสนาฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในการดำเนินงานด้านธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป

กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดย "WE SOLAR" จะมีหน้าที่เป็นปรึกษาในการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโซลาร์รูฟท็อป ในทุกกรณี รวมทั้งดูแลหลังการติดตั้ง ซึ่งข้อดีคือ แทนที่เสนาฯ จะต้องไปจัดจ้างบริษัทอื่นๆ มาดูแลเฉพาะกิจให้กับลูกค้า แต่ในกรณีการเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ "We Solar" ทำให้สามารถเดินแผนงานทางด้านโซลาร์รูฟท็อปได้อย่างครบวงจรด้วยพนักงานของบริษัทฯเอง ทำให้ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นหลายอย่างลงได้ รวมทั้งควบคุมมาตรฐานของงานได้อย่างดีด้วย และที่สำคัญทำให้มี Economy of Scale เพราะในส่วนของ "We Solar" ก็มีฐานลูกค้าทางด้าน Commercial และ Industrial อยู่แล้ว เสนาฯก็จะได้รับผลประโยชน์จากยอดขายและเงินปันผลของบริษัท รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่สนใจเรื่องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปด้วยว่า จะมีผู้ดูแลให้ตั้งแต่การวางแผน การติดตั้ง รวมถึงบริการดูแลรักษาหลังการติดตั้งโดยผู้ประกอบการรายเดียว ทำให้ไม่เกิดความวุ่นวาย และดูแลลูกค้าได้ทันท่วงที

ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ จาก : www.sena.co.th