แจ็ค หม่า (Jack Ma) จาก “ครูสอนภาษาอังกฤษ” สู่ “ผู้ก่อตั้งเว็ปไซต์ Alibaba” ที่รวยที่สุดในประเทศจีน

http://terrabkk.com/wp-content/uploads/2015/09/Jack-e1443602984756.png ที่มา : ekimeeza

“แจ็ค หม่า” หรือชื่อจริงว่า “หม่า หยุน” เกิดที่ประเทศจีน ณ เมืองหังโจว จากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดี การใช้ชีวิตในตอนเด็กก็เหมือนเด็กทั่วไปแต่มีความทะเยอทะยานที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษซึ่งแต่ต่างกับเด็กคนอื่นๆ ตอนสอบเข้ามาวิทยาลัยต้องสอบถึง 2 ครั้งจึงจะติดที่มหาวิทยาลัยครูหังโจวได้ และได้เดินตามเส้นทางที่ตัวเองรักมาโดยตลอด หลังจากจบการศึกษาได้มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ 5 ปี เงินเดือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นปี 2542 แจ็ค หม่า ได้จับกลุ่มกับเพื่อนๆอีก 24 คน เพื่อพูดถึงมุมองและโอกาสทางธุรกิจโดยแจ็ค หม่า ได้พูดถึงธุรกิจที่เขาคิดไว้ให้เพื่อนๆฟัง เมื่อฟังแล้วเพื่อน 23 คนจากทั้งหมด มองว่าธุรกิจนี้ไม่มีความเป็นไปได้จากเงินทุน ความรู้ ประสบการณ์ และทรัพยากรที่เรามีอยู่ แต่มีหนึ่งคนเท่านั้นที่บอกกับแจ็ค หม่า ว่า “ถ้าอยากทำก็ลองทำดู ถ้ามันไม่สำเร็จก็แค่กลับมาทำเหมือนอย่างที่เคยทำมาก่อน” คำพูดนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้แจ็ค หม่า ก้าวเข้ามาในธุรกิจที่ทำให้วงการอีคอมเมิร์สต้องสั่นสะเทือน ภายใต้ชื่อว่า อาลีบาบา (Alibaba) โดยเริ่มต้นด้วยทุนเพียง 2 ล้านบาท ปัจจุบันมูลค่าของกิจการหลังประกาศขายหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกามีมูลค่าทะลุไปกว่า 5 ล้านล้านบาท นอกจากนั้นยังมีธุรกิจอีกตัวหนึ่ง คือ Taobao ก่อตั้งเมื่อปี 2546 ใช้เวลาประมาณ 3 ปีสามารถครอบครองตลาดในจีนได้กว่า 60% และกลายเป็นเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย

แจ็ค หม่า (Jack Ma) ยังได้เล่าถึง การใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอายุว่าเราควรจะเตรียมตัวหรือดำเนินชีวิตอย่างไร โดย TerraBKK Research ได้สรุปเนื้อหาจากวีดีโอ “แนวคิดดีๆจากแจ็ค หม่า (Jack Ma) อาลีบาบา” มีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้

แจ็ค หม่า (Jack Ma) บอกว่า คนเราไม่ต้องกลัวความผิดพลาดเพราะความผิดพลาดเหล่านั้นจะกลายเป็นบทเรียนที่สำคัญในการใช้ชีวิต โดยเราสามารถแบ่งช่วงอายุต่างๆ ได้ดังนี้

  • ก่อนอายุ 20 ปี เราควรทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี
  • ช่วง 20 – 30 ปี เราควรที่จะเริ่มทำงานในบริษัทเล็กๆ เนื่องจากจะมีโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากกว่า เพราะบริษัทใหญ่ๆเราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรขนาดใหญ่ บริษัทเล็กๆจะสอนให้เรารู้จักความทะเยอทะยาน รู้จักความฝัน รู้จักการดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด และคุณจะได้รู้อะไรหลายๆอย่างตามเวลาอันสมควร ดังนั้นก่อนอายุ 30 ไม่ใช่เวลาให้คุณหาบริษัทใหญ่ แต่คุณต้องหาเจ้านายเก่งๆที่จะสามารถสอนงานคุณได้ด้วยวิธีที่แตกต่าง และช่วงนี้ถ้าจะผิดพลาดอะไรเป็นเรื่องปกติ ล้มลุกคลุกคลาน และพยายามสนุกกับเรื่องต่างๆเข้าไว้
  • ช่วง 30 – 40 ปี เป็นช่วงที่คุณต้องทำงานเพื่อตัวคุณเองเพื่อความสำเร็จ
  • ช่วง 40 – 50 ปี เป็นช่วงที่คุณต้องทำงานที่คุณชำนาญที่สุด ไม่ใช่เวลาหางานใหม่มันสายไปแล้ว เพราะโอกาสที่จะสำเร็จได้นั้นมันต่ำ
  • ช่วง 50 – 60 ปี เป็นช่วงที่ทำงานเพื่อคนรุ่นหลัง เพื่อเหล่าเด็กๆให้เค้ามีความสามารถเก่งกว่าคุณ เพราะเราต้องพึ่งพาเขาในอนาคต
  • ช่วงหลัง 60 ปี เป็นวัยที่เราต้องวางมือจากทุกสิ่ง ปล่อยตัวตามธรรมชาติ

มีนักเรียนในห้องยกมือถือ ว่า “ในช่วงที่ผ่านมา มีอะไรที่ฝังใจคุณบ้าง และเคยเสียใจกับอะไรบ้างครับ”

แจ็ค หม่า (Jack Ma) ตอบว่า การที่ผมเปิดตัวต่อสาธารณะชนทำให้ผมสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป และผมเป็นคนที่บ้างานมากเกินไป จนไม่มีเวลาที่จะให้ความใส่ใจกับครอบครัวได้มากเท่าที่ควร จนกระทั่งแฟนผมบอกว่า “ผมไม่ได้เป็นสามีของเธอ แต่ฉันมีสามีเป็นอาลีบาบา” ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางของตัวเอง และผมก็เคยร้องไห้เมื่อเจอปัญหาหนักๆเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามผมต้องสู้และสนุกสานไปกับมัน พวกคุณก็เช่นกัน

บทความโดย : TerraBKK ข่าวอสังหาฯ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก