ไทยลั่น 2 เดือนลงนามตั้งธนาคารเอไอไอบี คลังคาดกระบวนการอนุมัติไทยร่วมลงนามเป็นสมาชิกจัดตั้ง AIIB จะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เผยเงินทุนร่วมจัดตั้งอยู่ที่ประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท หวังเป็นแหล่งเงินกู้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในอนาคต นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนำเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติสำหรับกรณีที่ไทยจะเข้าร่วมลงนามในความตกลงการตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) ทั้งนี้ กรณีที่ไทยจะร่วมลงนามใดกับต่างประเทศจะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติในชั้นของคณะรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน สำหรับการจัดตั้ง AIIB นั้น จะมีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2559 โดยประเทศจีนเป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้ง ปัจจุบันมีประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกรวม 57 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มประเทศจากยุโรป ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน 7 ประเทศที่ยังไม่ได้เข้าร่วมลงนามอย่างเป็นทางการในจำนวนนี้มีมาเลเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียนที่ยังไม่ได้ลงนามเช่นกัน “มีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งบางประเทศ รวมทั้งไทย ซึ่งยังไม่สามารถลงนามได้ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างดำเนินการขอความเห็นชอบตามกระบวนการภายในของแต่ละประเทศ โดยในกรณีของประเทศไทย ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อน เนื่องจาก AIIB จะมีสถานะเป็นองค์กรระหว่างประเทศ จำเป็นจะต้องออกกฎหมายเพื่อรองรับ” นายรังสรรค์ กล่าวว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือนในการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกที่ยังไม่สามารถลงนามได้ ยังสามารถลงนามในความตกลงฯ ดังกล่าวได้จนถึงสิ้นปี 2558 นี้ เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2559 เป็นต้นไป ในด้านเงินทุนในการจัดตั้งนั้น ในหลักการของการใส่เงินทุนจัดตั้งจะคิดตามจีดีพีของแต่ละประเทศ แต่สำหรับประเทศที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งจะใส่เงินทุนมากกว่าประเทศอื่น ก่อนหน้านี้ จีนเองได้แสดงความจำนงที่จะใส่เงินทุนจัดตั้งในสัดส่วน 50% ของทุนจัดตั้ง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ขณะนี้เนื่องจากมีประเทศอื่นจากกลุ่มยุโรป เช่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และ ออสเตรเลีย เข้ามาร่วมจัดตั้งด้วย ทำให้สัดส่วนการลงเงินทุนน้อยลงเหลือ 25%
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังเผยว่า ไทยได้รับการจัดสรรหุ้นสำหรับการเป็นสมาชิกร่วมจัดตั้งทั้งสิ้น 1.4275% ของทุนจดทะเบียน (Authorized Capital) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,427.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 48,678.8 ล้านบาท โดยแยกเป็นทุนที่ต้องชำระในอัตรา 20% ของทุนจดทะเบียน หรือ คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 285.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 9,735.8 ล้านบาท ซึ่งจะมีการแบ่งชำระ 5 งวด ระหว่างปี 2559-2563 คิดเป็นมูลค่างวดละประมาณ 1,947.2 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 80% หรือเท่ากับ 1,142 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 38,942.2 ล้านบาท จะเป็นทุนรอเรียกชำระเมื่อมีความจำเป็น โดยทุนดังกล่าวจะจัดสรรจากระบบงบประมาณ การจัดตั้ง AIIB มีวัตถุประสงค์หลักในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในภูมิภาคเอเชียในด้านต่างๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน คมนาคม และสื่อสารโทรคมนาคม เป็นต้น AIIB จึงเป็นแหล่งเงินทุนอีกทางเลือกหนึ่งของไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนที่ยังมีความต้องการเงินลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสูงมาก สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และภายในภูมิภาค โดย เฉพาะความเชื่อมโยงกับจีนและอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยและมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์