ชาวบ้านแห่ร้องหมู่บ้านกลางกรุง รัชวิภา ทรุดหนักกว่า 200 หลัง หวั่นเกิดอันตรายต้องหนีไปเช่าคอนโดฯอยู่แทน สคบ.นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบ


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โครงการ หมู่บ้านกลางกรุง เดอะ รอยัล เวียนา (The Royal Viena) รัชวิภา ภายหลังลูกบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน ส่งเรื่องถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อร้องเรียน บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ "AP" ผู้บริหารจัดการโครงการหมู่บ้านจัดสรร เนื่องจากบ้านในโครงการมีปัญหาเป็นผลกระทบจากโครงสร้างอาคารและส่วนควบอาคาร โดยถนนของหมู่บ้านทรุดตัวและดึงหน้าบ้านของลูกบ้านลาดเอียงลง ในส่วนของพื้นบ้านมีการทรุดตัว โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านและหลังบ้านไม่มีเสาเข็ม เป็นแอ่งกระทะ พื้นปูดบวม ประตูรั้วบ้านปิดไม่ได้ ตัวบ้านบางส่วนมองเห็นเป็นโพรงลึก อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้หลายบ้านต้องดำเนินการแก้ปัญหาเองด้วยการฝังเสาเข็มหน้าบ้าน ขณะที่บางบ้านมีปัญหาหนัก จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เนื่องจากกลัวจะเป็นอันตราย ต้องย้ายออกไปเช่าบ้านและคอนโดฯอยู่ที่อื่น นางมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส คณะทำงานและตัวแทนลูกบ้านหมู่บ้านกลางกรุงรัชวิภา กล่าวว่า ประเด็นที่ร้องเรียน สคบ. มีหลายเรื่องครอบคลุมตั้งแต่ตัวถนนมีการซ่อมแล้วซ่อมอีกหลายครั้งก็ยุบตัวลงไป น่าจะมีสาเหตุจากการอัดดินไม่แน่นต่อมาเกิดการยุบตัวเป็นโพรงเป็นปัญหาใหญ่สุด พอถนนทรุดตัวก็ดึงตัวบ้านลงไปด้วย ทำให้หน้าบ้านทรุดตัว ตามด้วยกำแพง บางจุดกำแพงบ้านเริ่มแตกแยกออกจากกัน จนฉีกออกบริเวณกึ่งกลางก็มี ส่วนบริเวณใต้บ้านมองเห็นเป็นโพรงชัดเจน เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ช่วงแรกก็แจ้งไปทางเอพี ได้รับคำตอบว่าเป็นการทรุดตัวตามปกติ เมื่อแจ้งให้มาซ่อมแซมก็ผลัดวัน จนผ่านไปหลายเดือนลูกบ้านพยายามตามก็แจ้งว่าหมดระยะเวลาในการค้ำประกันแล้ว "ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 ลูกบ้านรวมตัวกัน 200 หลัง ส่งคำร้องไปที่เอพีอีกครั้ง ได้รับการอนุมัติซ่อมแซมเพียง 30 หลัง แต่ไม่ได้ซ่อมให้ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องโอนเงินส่วนหนึ่งในการซ่อมแซม ลูกบ้านก็งงว่าซื้อบ้านในราคาหลายล้านเราแจ้งให้มาแล้วคุณผลัดจนหมดสัญญาแล้วให้เราออกเงินส่วนหนึ่งในการซ่อมและนอกเหนือจาก30หลังบางส่วนทนไม่ไหว ต้องออกเงินซ่อมเองหมด แค่ลงเสาเข็มหน้าบ้าน ต่ำสุด 250,000 บาทต่อบ้าน ยังไม่รวมส่วนอื่นของบ้านอีก ทางเอพีไม่ได้ช่วยเหลือเลย และเมื่อเวลาผ่านมาก็มีการทรุดตัวเพิ่มเรื่อยๆ บางหลังซ่อมถึง 3 ครั้ง ทำให้ลูกบ้านรวมตัวกันร้องเรียน สคบ. ว่าที่ดินผืนนี้ต้องมีการเจาะและสำรวจ" นางมัยรัตน์กล่าว นางมัยรัตน์กล่าวว่า วันที่ 29 มิถุนายนนี้ ทาง สคบ.จะนำทีมกรมโยธาฯ กรมที่ดิน และสภาวิศวกรรม เข้ามาพร้อมกันเพื่อแก้ปัญหาอย่างบูรณาการเพื่อให้เป็นโครงการตัวอย่างให้เจ้าของโครงการทั้งหลายที่ขาดจริยธรรมเห็นโครงการนี้เป็นตัวอย่างว่าถ้ามีปัญหาจะเกิดการร้องเรียนเอาผิดทางผู้ประกอบการให้ได้ สำหรับที่นี่ทางเอพีจะต้องเข้ามาแก้ไข ให้เขาเห็นความสำคัญของทุกชีวิตคนที่เข้ามาอยู่ในบ้าน ไม่ใช่เห็นความสำคัญแค่คนมาซื้อบ้าน หมู่บ้านนี้มีทั้งหมด 330 หลังคาเรือน ราคาขายอยู่ที่ 5-10 ล้านบาท เป็นหมู่บ้านถูกขายทั้งหมด 2 โซน คือโซน 5-6 ปี และโซน 3 ปี มีปัญหาทั้ง 2 โซน เริ่มมีปัญหาพื้นถนนทรุดตัวเห็นชัดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และค่อยๆ ทรุดตัวลงเรื่อยๆ มีบ้านที่ทรุดหนัก 69 หลัง บ้านที่มีรอยร้าวแผลเล็กน้อยทรุดไม่มาก 213 หลัง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหลังคารั่ว โดยช่างที่มาซ่อมแจ้งว่ากระเบื้องหลังคาถูกปูไว้เฉยๆ ไม่มีการขันนอตแต่อย่างใด ด้านลูกบ้าน นายเสมอ เทนจัตุรัส อายุ 64 ปี ที่อาศัยในหมู่บ้านกลางกรุง รัชวิภา กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านนี้มา 5 ปี เริ่มประสบกับปัญหาบ้านทรุดมาประมาณ 3 ปี ความเสียหายส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณหน้าบ้าน หลังบ้าน โดยเฉพาะบริเวณห้องครัวเสียหายหนักจนกำแพงทะลุ และบริเวณชั้น 3 ของบ้านในส่วนของห้องนอนลูกสาวเกิดรอยร้าว ตั้งแต่เกิดความเสียหายมาก็ซ่อมแซมมาแล้ว 2 ครั้ง เสียค่าซ่อมไปประมาณ 20,000 บาท นางสาวสิรามน ศรีเขียว อายุ 46 ปี เจ้าของบริษัท เทนโช จำกัด กล่าวว่า ได้ซื้อบ้านตั้งเป็นบริษัทมาได้ 5 ปีแล้ว พบว่าพื้นเริ่มทรุดมาตั้งแต่หลังจากเปิดบริษัทมาได้ปีกว่า แต่ในปีแรกยังทรุดไม่เยอะ หลักจากนั้นก็ทรุดมาเรื่อยๆ จนกระเบื้องที่บริเวณหน้าบ้านแตกล่อนออก ทำให้ต้องรื้อ พร้อมทั้งปรับพื้นที่ เทปูนใหม่ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่พื้นก็ยังทรุดอยู่ รวมๆ แล้วซ่อมแซมหน้าบ้านมา 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดลงเสาเข็มกลุ่ม แต่ก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน ค่าซ่อม 3 ครั้งรวมแล้วประมาณ 200,000 บาท ส่วนตัวคิดว่าโครงการน่าจะรีบถม รีบสร้างเกินไป เลยทำให้เกิดปัญหาการทรุดดังกล่าวขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ฝ่ายโยธา และสำนักงานเขตจะเข้าไปตรวจสอบโครงการบ้านกลางกรุงย่านรัชวิภา กรณีที่ลูกบ้านโครงการได้ร้องเรียนว่ามีปัญหาเรื่องดินทรุด จนส่งผลกระทบต่อบ้านอยู่อาศัย


นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาลูกบ้านได้ร้องเรียนเรียกร้องมายังบริษัทเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าข้อเรียกร้องที่มีการนำเสนอมานั้นมีจำนวนมากและมีการเรียกร้องหลากหลาย ทางบริษัทจึงได้ขอให้ สคบ.เป็นตัวกลางในการเจรจาและสรุปข้อเรียกร้องต่างๆ ว่าจะให้บริษัทดำเนินการอย่างไร หาก สคบ.หารือกับลูกบ้านและได้ข้อยุติแล้ว ทางบริษัทก็พร้อมจะดำเนินการตามที่ สคบ.เสนอมา
นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลาประมาณ 10.00 น. จะเดินทางไปตรวจสอบกรณีที่ตัวแทนลูกบ้าน ในโครงการบ้านกลางกรุง รัชวิภา กว่า 200 หลังคาเรือน ประสบปัญหาบ้านทรุด ในการตรวจสอบครั้งนี้ได้เชิญตัวแทนของสำนักงานเขตและโยธาธิการด้านผังเมืองเข้าร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อดูว่าปัญหาของบ้านทรุดดังกล่าวเกิดจากอะไร เป็นปัญหาทางวิศวกรรมอย่างที่เคยประเมินไว้ในเบื้องต้นหรือไม่ หรือเป็นการทรุดจากธรรมชาติ การตรวจสอบจะดูตั้งแต่ฐานราก โครงสร้างของดิน และโครงสร้างทางวิศวกรรม พร้อมทั้งดูว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ "สคบ.ได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านโครงการดังกล่าวและเข้าไปดูมาแล้ว1รอบพบว่าบ้านในโครงการดังกล่าวทรุดแบบน่าเกลียดมาก มีมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นกว่า 20 ล้านบาท ดังนั้นจึงเชิญผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบแบบละเอียดอีกรอบ เมื่อผลการตรวจสอบออกมาจะมีการพูดคุยกับเจ้าของโครงการเพื่อดูว่าจะรับผิดชอบอะไรแค่ไหน และคงว่ากันไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง" นายอำพลกล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.matichon.co.th