เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. กำลังทหาร ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ปราณบุรี ร่วมกับเทศบาล ตำบลปากน้ำปราณ ตำรวจ สภ.ปากน้ำปราณ ตชด.ที่ 145 และกำลัง อส. กว่า 200 นาย นำรถแบ็กโฮ และเครื่องจักรกลเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำชายหาด ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้ประกาศเตือนให้ผู้ประกอบการบริเวณชายหาดจำนวน 21 ราย รื้อถอนร้านค้าออกจากพื้นที่ตามนโยบาย จัดระเบียบชายหาดของรัฐบาล นายธงชัย สุณาพันธ์ ปลัดเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบ การบุกรุกชายหาดทั้งสิ้น 21 ราย ใน 2 กลุ่ม อยู่บริเวณ พื้นที่งอก 24 ไร่ ทางด้านทิศเหนือบริเวณปากคลอง 6 ราย โดยทำแผงตากปลาหมึก ร้านค้าและอีก 15 ราย อยู่ด้านทิศใต้ฝั่งตะวันออกแนวชายหาดทะเล เป็นร้าน อาหาร ร้านขายของฝาก ซึ่งผู้ที่ไม่ยินยอมให้รื้อถอน ก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดี และติดประกาศห้ามใช้ อาคาร พร้อมกับใช้มาตรา 44 บังคับใช้ต่อไป ผู้สื่อรายงานว่า การเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำบริเวณชายหาดในครั้งนี้ มีผู้ยินยอมให้รื้อ 8 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการปลาหมึกแห้ง โรงอบ แปรรูปหมึกรายย่อย ส่วนผู้ประกอบการที่เหลืออีก 13 ราย ที่ไม่ยอมให้รื้อถอนเป็นเจ้าของกิจการร้านค้า และร้านอาหาร โดยได้มารวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณชายหาดเพื่อฟังคำชี้แจงจากนายสุทธิพร ณ นคร ปลัด อาวุโส อ.ปราณบุรี ก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป จ.สตูล ตอนสายวันเดียวกัน นายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล พร้อมกำลังร่วมกันออกสืบสวนปราบปรามเพื่อหยุดยั้งการ บุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ บริเวณบนเกาะหลีเป๊ะ หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล พบร่องรอยการปรับพื้นที่ และตัดต้นไม้เพื่อก่อสร้างอาคารใน บริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา รวมเนื้อที่ถูกบุกรุกทั้งสิ้น 2 ไร่ 27 ตารางวา จนท. ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่และยึดรถแบ็กโฮ 1 คัน จากนั้นได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะหลีเป๊ะ และรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัว ผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป นายปณพลเปิดเผยว่า พื้นที่บุกรุกดังกล่าวทราบว่าเป็นของนายทุนบุกรุกเพื่อ เข้ามาก่อสร้างอาคาร ทั้งนี้ จนท.จะได้รวบรวมพยานหลักหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์