ผลโพลสำรวจความเห็นชาวอังกฤษ เกี่ยวกับ ‘หน้าตา’ ของเมืองใหญ่ในอนาคตอีก 100 ปี ข้างหน้า ส่วนใหญ่ ชอบ ‘เมืองใต้ดิน และเมืองในทะเล’ แถมยังเชื่อว่าการสร้างบ้านด้วยระบบเครื่องพิมพ์ 3D จะทำให้บ้านราคาถูกลง เว็บไซต์ เดอะ มิรเรอร์ ในอังกฤษ รายงานผลสำรวจความเห็นของชาวอังกฤษที่มีต่ออนาคตของเมืองในอีก 100 ปีข้างหน้า น่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะคาดว่าเมื่อถึงพุทธศักราช 2668 หรือ ค.ศ.2115 จะมีประชากรล้นโลก ด้วยจำนวนถึง 11,000 ล้านคน คงมาอยู่แออัดเบียดเสียดกันบนพื้นดินคงไม่ไหว ปรากฏว่า ผลโพลจากการสำรวจความเห็นของชาวอังกฤษจำนวน 2,000 คน จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมศาสตร์ในอังกฤษ ออกมา ส่วนใหญ่ผู้ถูกสอบถาม มีความเห็นว่าเมืองใต้ดินและเมืองลอยน้ำ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอีก 100 ปีข้างหน้า โดยผู้ถูกสอบถาม ถึง 2 ใน 5 เห็นดีด้วยกับการจะสร้างเมืองใต้ดิน และ 1 ใน 3 ก็เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสร้างเมืองในทะเล พร้อมกับใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งพลังงานจากคลื่นลมมาผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้านและระบบสาธารณูปโภค

โลกในอนาคต...เลี้ยงวัวกันบนยอดตึก

ขณะเดียวกัน ผู้ถูกสอบถามในอังกฤษ 1 ใน 5 คิดว่า การสร้างบ้านด้วยเครื่องพิมพ์ 3D จะช่วยในการสร้างบ้านราคาถูกลง และเป็นทางเลือกสำหรับการแก้วิกฤติที่อยู่อาศัยในอนาคต รวมถึงการปลูกพืชและทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ด้านบนของอาคาร นอกจากนั้น 1 ใน 10 มีความเห็นว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่ความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จะทำให้มนุษย์สามารถไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร เพียงแต่เชื่อว่า การเดินทางโดยยานอวกาศจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อถึง ค.ศ.2115 จนทำให้การอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ หรือดาวอังคารอาจเป็นทางเลือกในอนาคต และ 1 ใน 10 ก็เห็นว่าการสร้างเมืองใต้น้ำหรือใต้ทะเล เป็นความคิดที่ดีที่สุด

หน้าตา ปราสาทลอยฟ้า

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์