ตลาดการลงทุนก็เหมือนกับโลกธุรกิจที่จะมีฤดูกาลและวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงของตัวมันอยู่ (Cycle) ถ้าเป็นธุรกิจก็จะเป็นช่วงที่ธุรกิจตั้งตัวได้ ธุรกิจเติบโตยอดขายดี กิจการรุ่งเรื่องถึงขีดสุด และจบด้วยกิจการพักตัวหรือซบเซาไปเลย วัฏจักรของธุรกิจแต่ละรอบจะอยู่ที่ประมาณ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมก็มีจังหวะเวลาที่ต่างกัน ถ้าเป็นตลาดหุ้นนั้น เม็ดเงินลงทุน (Fund Flow) ที่จะเป็นตัวกำหนดดัชนีให้มีการเคลื่อนไหวทำให้เกิดการขึ้นลงแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา (Timing) ในรอบระยะเวลา 1 ปีจะมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เคียงกันอาจจะเกิดขึ้นช้าเหลื่อมกันบ้างในบางเดือน TerraBKK Research จึงขอแนะนำนักลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อที่จะให้เข้าใจเรื่องจังหวะเวลาเพื่อเป็นความรู้พื้นฐานก่อนที่เข้ามาลงทุน จังหวะเวลาหรือฤดูกาลการลงทุนประจำปีเป็นเรื่องที่สำคัญบางคนมีความรู้ไปทุกเรื่องแต่จังหวะในการลงทุนไม่ดีกว่าจะประสบความสำเร็จก็คงจะเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าหากการลงทุนถูกจังหวะเวลาถูกแนวโน้ม การลงทุนก็มีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะกำไรมากกว่า 10%-20% เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน TerraBKK Research จึงขอเสนอช่วงเวลาที่น่าสนใจสำหรับสำหรับการลงทุน ได้แก่

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

ช่วงพักฐานของตลาดหุ้นประมาณเดือน พฤกษภาคม เป็นช่วงหลังจากจ่ายเงินปันผลและประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ช่วงนี้จึงมีนักลงทุนบางรายขายทำกำไรหลังจากมีการเก็งเรื่องการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 อีกช่วงหนึ่ง คือ พฤษจิกายน-ธันวาคม ก่อนเทศกาลปีใหม่ซึ่งตลาดมักจะพักฐานซึ่งจะไม่ค่อยมีปริมาณซื้อขายมากนัก ดังนั้นช่วงพฤษจิกายน-ธันวาคม จึงเป็นช่วงโอกาสทองของนักลงทุนที่จะซื้อสะสมหุ้นไว้รอช่วงหุ้นจะจ่ายปันผล จะเป็นช่วงหลังจากผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ประกาศออกในช่วงต้นปีแล้วจ่ายปันผลประมาณเดือน มีนาคม – เมษายน ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่หุ้นปันผลสูงหลายตัวจะเป็นที่หมายปองของเหลานักลงทุนที่ต้องการมาเก็บกินเงินปันผล เนื่องจากหุ้นบางตัวจ่ายปันผลปีละครั้งแล้วจ่ายก้อนใหญ่ครั้งเดียวทำให้บางตัวจ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 10% ดีกว่าฝากดอกเบี้ยแบงค์หรือออมในพันธบัตรทั้งปีเสียอีก

อีกช่วงหนึ่งที่หลายคนรู้จักและคุ้นหู คือ January Effect เป็นช่วงที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้ามายังตลาดหุ้นไทยเกิดประมาณช่วงต้นปีในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการกว้านซื้อหุ้นของกองทุนในช่วงต้นปีทั้งกองทุนในไทยและต่างประเทศเป็นประจำทุกปีหรือเรียกว่า January Effect ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีถ้าไม่เกิดปัญหาหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจขึ้นก่อน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะเก็บสะสมในช่วงจังหวะขาลงปลายๆปี (ช่วงเม็ดเงินต่างชาติไหลออก) แล้วมาขายตอนในช่วงนี้

***จะเห็นว่าเรื่องของ Timing เป็นเป็นเรื่องสำคัญและควรจะใส่ใจเพื่อที่จะทำให้มีประสิทธิภาพการลงทุนดีขึ้น ช่วงเวลาข้างต้นเป็นช่วงเวลาที่มักจะเกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา แต่อาจจะไม่เป็นจริงตามนั้นหากเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศหรือระดับโลก นักลงทุนจึงควรมองแนวโน้ม (Trend) ของตลาดควบคู่ไปด้วยอย่าคิดไปเองว่าจุดที่ซื้อจะต้องเป็นจุดต่ำที่สุด จุดที่ซื้ออาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของขาลงก็ได้ เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ดีควรมีวินัยในการลงทุน จำกัดความเสี่ยงให้ได้ เล่นไปตามแนวโน้ม และอยู่ในแผนการที่วางเอาไว้ - เทอร์ร่า บีเคเค

16 สุดยอดหุ้นปันผลปี 2557 ผลตอบแทนมากกว่า 7% ต่อปี ปกติแล้วอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลางจะให้ผลตอบแทนประมาณ 6-8% ต่อปี แต่การลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนอยู่ในช่วง 6-10% ต่อปี ตามหลัก “High Risk High Return” (ขึ้นอยู่กับประเภทของหุ้น) TerraBKK Research จึงได้รวบรวมหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 7% ต่อปี

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก