สำนักข่าวเวียดนามนิวส์ของเวียดนาม รายงานว่า เวียดนามกำลังอยู่ระหว่างปรับแก้ไขกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาตทำงาน (เวิร์กเพอร์มิท) ในเวียดนาม และไม่ใช่นักการทูตหรือกลุ่มเอ็นจีโอ ซื้อบ้านพร้อมมีกรรมสิทธิ์ถือครอง 50 ปีนับแต่วันที่ได้รับโฉนดบ้าน และสามารถปล่อยเช่าได้ นอกจากนี้ จะเปิดให้บริษัทการลงทุนข้ามชาติ สาขาหรือสำนักงานตัวแทนที่เข้ามาตั้งในเวียดนาม กองทุนต่างชาติ และธนาคารต่างชาติ สามารถซื้อบ้านได้ โดยการซื้อขายหรือปล่อยเช่าของทั้งสองกลุ่มต้องทำผ่านสถาบันการเงินในเวียดนาม ทั้งนี้ การแก้กฎหมายดังกล่าวจะดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในเวียดนามมากขึ้นตลอดจนกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม เดิมกฎหมายเวียดนามอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองบ้านในเวียดนามได้ใน 2 กรณี ได้แก่ 1.เป็นผู้ที่แต่งงานกับชาวเวียดนาม 2.เป็นนักลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนาม ซึ่งทั้งสองกรณีไม่สามารถปล่อยเช่าหรือส่งต่อสิทธิให้ผู้อื่น ปัจจุบันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านการประชาพิจารณ์แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับแก้ไข นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ กรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือครองและปล่อยเช่าบ้านได้น่าจะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ ตลาดเหล็กและวัสดุก่อสร้างในเวียดนามมีความคึกคักมากขึ้น รวมถึงทำให้ตลาดอสังหาฯ เวียดนามมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านเพื่อลงทุนในเวียดนามยังต้องพิจารณาอีกหลายปัจจัยเช่น อัตราภาษี ผลตอบแทนการลงทุนความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนาม นอกจากนี้เวียดนามเองน่าจะออกกฎหมายอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตฟองสบู่ เบื้องต้นประเมินว่าตลาดอสังหาฯ ในเวียดนามยังไม่น่าสนใจเท่าตลาดเมืองใหญ่อื่นในอาเซียน เช่น กัวลาลัมเปอร์ หรือกรุงเทพฯ ขณะที่โอกาสของผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ชาวไทยในเวียดนามนั้นน่าจะมีมากขึ้น เนื่องจากฐานตลาดไม่ได้มีแค่ผู้ซื้อท้องถิ่น แต่มีผู้ซื้อต่างชาติด้วย อย่างไรก็ตามการลงทุนพัฒนาโครงการในเวียดนามจึงอาจต้องศึกษาให้ดีก่อน เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างชาติหลายรายเคยไปลงทุนและถอนตัวออกมา
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์