วิธีซักผ้าห่ม ให้สะอาดหมดจดไร้คราบสกปรกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้เนื้อผ้าของผ้าห่มคุณยังมีคุณภาพดีอยู่ วันนี้เราจะมีวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้ผ้าห่มของคุณสะอาดไร้คราบติดค้างแถมยังเป็นการถนอมเนื้อผ้าไม่ให้เกิดความเสียหายกับผ้าห่มสุดโปรดอีกด้วย
เคยสงสัยกันบ้งรึเปล่า ที่คุณเป็นภูมิแพ้อยู่ทุกวันนี้เพราะอะไร ที่จริงแล้วผ้าห่มนี่แหละ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ เนื่องจากเราไม่ได้ทำความสะอาด หรือดูแลผ้าห่มให้ถูกวิธี ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปดูวิธีทำความสะอาดผ้าห่ม ให้กลับมาใหม่เหมือนเดิม ด้วยขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอนดังนี้
1. เช็กในแน่ใจว่าผ้าห่มของคุณใส่ในเครื่องซักผ้าได้
ก่อนที่จะเริ่มซักผ้าห่มของคุณควรจะเช็กให้แน่ใจก่อนว่า ผ้าห่มของคุณไม่ใหญ่เกินไปที่จะซักในเครื่องซักผ้า เพราะถ้าผืนใหญ่เกินไปเวลาซักในเครื่องก็จะทำให้ยังเหลือร่องรอยสกปรกติดอยู่กับผ้าห่มได้ เนื่องจากผืนผ้าห่มที่ใหญ่จนแน่นเครื่องซักผ้า จะทำให้ผ้าห่มไม่หมุนจนสะอาดทั่วทั้งผืน ดังนั้นเพื่อให้ผ้าห่มผืนใหญ่สะอาดหมดจด อาจจะเปลี่ยนเป็นการซักมือแทนการซักเครื่องค่ะ 2. ซักด้วยเครื่องซักผ้าเพียงแค่ไม่กี่นาที โดยปกติแล้วเวลาทำความสะอาดผ้าห่มของเราจะใช้เครื่องซักผ้าเพื่ออำนวยความสะดวก เพราะว่าผ้าห่มผืนใหญ่ ๆ จะซักมือทีก็ลำบาก แต่ถ้าเราใช้เครื่องซักผ้าปั่นก็ไม่ควรปั่นเกิน 5 นาที เพราะจะเป็นการทำลายเนื้อผ้า หรือถ้าใครที่กลัวว่าผ้าห่มจะเสียหาย อาจจะซักด้วยมือโดยการแช่ทิ้งไว้ 15 นาทีก่อน จากนั้นใช้มือขยำผ้าห่มเบา ๆ แล้วล้างด้วยน้ำเย็นอย่างน้อย 2 ครั้ง บีบน้ำออกเบา ๆ โดยห้ามออกแรงบิดผ้าห่ม 3. ใช้น้ำเย็นซัก การใช้น้ำอุ่นในการซักผ้าห่มนั้นจะทำให้มีสารตกค้างอยู่บนผ้าห่มของคุณ ดังนั้นเวลาซักควรใช้น้ำเย็นแทนการใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่น เพื่อจะทำให้ขจัดสารตกค้างอย่างเช่น ผงซักฟอก หรือน้ำยาต่าง ๆ ให้หมดไป 4. ปรับอุณหภูมิเครื่องปั่นให้พอดี หลังจากที่ซักด้วยเครื่องซักผ้าแล้ว ให้นำออกมาปั่นแห้งเป็นเวลา 10 นาที โดยตั้งอุณหภูมิเครื่องปั่นอยู่ในระดับกลาง จากนั้นค่อยนำผ้าห่มออกมาจากเครื่อง 5. นำไปตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเท เมื่อปั่นแห้งเสร็จแล้วก็นำไปตากในที่แดดส่องถึงและมีอากาศถ่ายเท สำหรับแม่บ้านบางท่านที่กลัวว่าสีผ้าห่มของคุณจะซีดเพราะตากกลางแดด ไม่จำเป็นต้องกลัวเพราะการตากกลางแดดจะทำให้ผ้าห่มของเราแห้งไวยิ่งขึ้น แถมการตากในที่ที่มีอาการถ่ายเทหรือแดดส่องถึงจะเป็นการกำจัดแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามผ้าได้ด้วยเช่นกัน ที่มา : Kapook