ตรวจสอบสิทธิ์เที่ยวอย่างไรได้ลดภาษี สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ชวนประชาชนเที่ยวไทยได้ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท ถึงสิ้นปีหน้า แนะตรวจสอบสถานะโรงแรมก่อนเข้าพัก และขอในกำกับภาษีทุกครั้ง หรือจองแพ็กเกจผ่านบริษัททัวร์ หวังกระตุ้นเที่ยวไทยให้คึกคัก ดึงผู้ประกอบการเข้าระบบฐานภาษีมากขึ้น

นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เผยหลัง ครม.มีมติอนุมัติมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยผู้ท่องเที่ยวสามารถนำใบกำกับภาษีที่ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท และนิติบุคคลที่ไปใช้บริการที่พัก, จัดอบรมสัมมนา สามารถลดหย่อนภาษีได้ร้อยละ 100 ของค่าใช้จ่าย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่รอบปีภาษี 2557 และปีภาษี 2558

โดยนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ แนะนำประชาชนให้รักษาสิทธิ์ของตัวเอง ด้วยการตรวจสอบข้อมูลและสถานะโรงแรมที่ไปพัก เพราะมาตรการลดภาษีเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ

1.พักในโรงแรมที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรมอย่างถูกต้อง ปัจจุบันโรงแรมในประเทศไทยมีทั้งหมดประมาณ 100,000 โรง แต่มีโรงแรมที่จดทะเบียนประกอบกิจการโรงแรมถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแค่ประมาณ 40,000 โรงเท่านั้น ที่เหลืออีกราว 60,000 โรง เลี่ยงไปจดทะเบียนเป็นห้องพัก อพาร์ตเมนท์ และคอนโดมิเนียมแทน เนื่องจากการจดทะเบียนเป็นโรงแรมต้องมีเกณฑ์มาตรฐานค่อนข้างสูง ซึ่งใบกำกับภาษีของที่พักเหล่านี้ไม่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
2.จองแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ วิธีนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถลดหย่อนภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น ด้วยการใช้ใบกำกับภาษีแสดงค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ที่ซื้อแพ็กเกจยื่นภาษีแทน ทำให้ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลสาถานะของโรงแรมที่เข้าพัก นอกจากนี้ตามมาตรการหากโดยสารเครื่องบินเพื่อไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองไม่สามารถหักภาษีได้ แต่หากเป็นการจองผ่านแพ็กเกจท่องเที่ยวของบริษัททัวร์สามารถนำมาใช้รวมลดหย่อนภาษีได้
“หากดูตามเกณฑ์การลดหย่อนภาษี 15,000 บาท จะทำให้มีประชาชนผู้มีรายได้ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวได้ประมาณ 2,000,000 คน ซึ่งข้อดี คือ เป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง และดึงให้กลุ่มคนเหล่านี้หันมาเที่ยวในประเทศ นำเงินมาใช้จ่ายในประเทศ แทนการเที่ยวต่างประเทศ แต่มองว่า 15,000 บาท ยังจูงใจน้อยเกินไป เพราะหากประเมินจากมาตรการนี้ที่เคยใช้ไปแล้วเมื่อสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ให้ลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวเท่ากัน คือ 15,000 บาท มีผู้ใช้สิทธิ์ในปีนั้นเพียงราว 20,000 คนเท่านั้น ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก สมาคมฯ จึงเคยเสนอไปว่าอยากให้ลดภาษีที่ 30,000 บาท ซึ่งจะจูงใจได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามแม้มาตรการนี้อาจไม่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ทางอ้อมหากประชาชนเรียกใบกำกับภาษีจากสถานประกอบการมากขึ้น ก็จะช่วยจูงใจให้บริษัท, โรงแรม ห้างร้านตต่างๆ หันมาเข้ามาสู่ระบบที่ถูกต้องมากขึ้น” นายยุทธชัย ระบุ

ด้าน นิติบุคคลที่สามารถนำรายจ่ายจากการอบรม สัมมนา ไปใช้ลดภาษีได้ร้อยละ 100 เช่น หากนิติบุคคลใช้จ่ายเพื่อการสัมมนาไป 200,000 บาท จะสามารถยื่นภาษีโดยการเพิ่มรายจ่ายอีกเท่าตัวเป็น 400,000 บาท เป็นต้น โดย นายยุทธชัย ให้ความเห็นว่า สำหรับนิติบุคคลเชื่อว่าบริษัทใหญ่ๆจะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้แน่นอน เนื่องจากมีความชำนาญด้านภาษี แต่ห่วงบริษัทขนาดเล็กและกลาง หรือ เอสเอ็มอี ซึ่งมีอยู่ราวแสนรายที่ยังไม่มีข้อมูลมากพอ และไม่ได้ใช้สิทธิ์ คาดว่าหากมาตรการนี้ประชาสัมพันธ์ไปถึง ก็จะช่วยกระจายการท่องเที่ยวได้มากขึ้น รวมถึงยังจูงใจให้นิติบุคคลที่ยังไม่ได้จดทะเบียน หันมาจดทะเบียนเพื่อเข้าระบบฐานภาษีมากขึ้น

แม้มาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนี้ จะเพิ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม.เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2557 ที่ผ่านมา แต่ประชาชนสามารถนำใบกำกับภาษีที่ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงสิ้นปี 2557 รวมไม่เกิน 15,000 บาท มาใช้ลดหย่อนภาษีประจำปีภาษี 2557 ได้ โดยมาตรการนี้มีอายุ 2 ปี คือ ตลอดปีนี้ไปจนถึง ธันวาคม 2558

ที่มา : ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์