หากต้องการทราบถึงความสามารถในการขายหรือความเข้มแข็งของตราสินค้าว่าแบรนด์ใดมีประสิทธิภาพมาก TerraBKK Research ขอนำเสนอว่านอกจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคแล้ว เรายังสามารถดูได้จากตัวเลขทางการเงิน คือ “ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (Selling, General & Administrative Expenses)” ได้อีกทางหนึ่ง

เพราะสัดส่วนทางการเงินนี้หากเจ้าได้ยังคงรักษาในระดับต่ำ แต่ยังคงสร้างความเจริญเติบโตด้านยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง นั่นสะท้อนให้เราเห็นว่าสินค้า และบริการของบริษัท นั้นๆมีฐานลูกค้าในใจที่ค่อนข้างมั่นคง

จากการรวบรวมดูตัวเลขของผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 ราย เรียงลำดับตามความสามารถในการขายและการบริหารค่าใช้จ่ายได้ดังนี้

  1. บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  2. บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
  3. บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  4. บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)
  5. บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

SG&A_all_1

เริ่มต้นกันที่แชมป์ทำกำไรสูงสุดอย่างบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ในปีผ่านๆมาสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี โดยสามารถรักษา SG&A/Sale Ratio คงที่ตลอดระยะเวลา 5 ปี อยู่ที่ 11-12% และหากดูผลประกอบการในครึ่งปีแรกแล้ว แชมป์กำไรสูงสุดคงหนีไม่พ้นแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไปอีกหนึ่งปี

SG&A_LH

ด้านบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ SG&A/Sale อยู่ในระดับ 10-13% แต่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

SG&A_spali

ต่อกันที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เห็นได้ว่ามีการใช้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงในช่วงปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับพฤกษา แต่ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพฤกษากลับมาโดดเด่นอีกครั้งด้วยการบริการทางการเงินที่ดีขึ้น ที่สามารถทำให้ SG&A/Sale ลงมาอยู่ที่ 15-16%

SG&A_PS

ในส่วนของบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่ยังหวั่นไหวไปตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ SG&A/Sale ก็ยังอยู่ในระดับและสภาวะตลาดที่ 16-20%

SG&A_AP

ปิดท้ายด้วยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มี SG&A/Sale อยู่ในระดับ 20-26% สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ และเมื่อประกอบกับยอดขายที่ลดลงตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วเป็นต้นมา ทำให้ SG&A/Sale Ratio มีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งนี้แสนสิริได้ออกมาปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ในช่วงปลายปี 2557 โดยบริษัทจะออกมาดำเนินแผนธุรกิจ Engineer for Growth เช่น การรวมการจัดตั้งหน่วยงานกลางในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างและ เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มอำนาจในการต่อรองราคาและควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย, การปรับการใช้งบการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทั้งหมดต่างก็คาดหวังว่าแผนธุรกิจนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแสนสิริ

SG&A_Siri