“แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น” ลงนามสัญญากับ “เบรมโบ้” ผู้นำนวัตกรรมระบบเบรกระดับโลก เนรมิตโรงงานพื้นที่ 16,800 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) แถบอีสเทิร์นซีบอร์ด เตรียมหลากฟังก์ชันงานระบบ อาทิ ระบบวางสินค้าแบบ VNA, Solar Roof, พื้นที่สำนักงาน และพื้นที่การผลิตเพื่อรองรับเครื่องจักรขนาดใหญ่และพนักงาน 150 คน สอดคล้องมาตรฐานการดำเนินงานขั้นสูงของเบรมโบ้ คาดเริ่มดำเนินการไตรมาส 1/2568 รองรับโอกาสการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกระจายสินค้าสู่ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์และซัพพลายเชน

นายปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD เปิดเผยว่า บริษัทสามารถปิดดีลพัฒนาโรงงานให้แก่บริษัท เบรมโบ้ จำกัด หรือ Brembo ผู้นำระบบเบรกระดับโลก เพื่อพัฒนาโรงงานขนาดพื้นที่ 16,800 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โดยมีบริษัท คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Cushman & Wakefield Services เป็นตัวกลางในการดำเนินงานโปรเจกต์

“นี่ถือเป็นอีกครั้งที่แอลฟา ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำระดับโลกให้ช่วยดูแลการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการขยายฐานการผลิตในไทยเป็นครั้งแรก โดยแอลฟาได้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่การแนะนำแปลงที่ดินที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ตลอดจนร่วมพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชันงานระบบมาตรฐานขั้นสูงที่ตอบโจทย์กระบวนการผลิตและกระบวนการทำงานภายในโรงงานของ Brembo” นายปธาน กล่าว

ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าว ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของ Brembo อาทิ พื้นที่ว่างสำหรับรองรับเครื่องจักรการผลิต พื้นที่ส่วนคลังสินค้า อาทิ ชั้นวางสินค้าแบบแคบพิเศษ VNA (Very Narrow Aisles) พื้นที่ส่วนสำนักงานที่มีเอกลักษณ์ กลิ่นอาย และฟังก์ชันภายในสำนักงานตามความต้องการของ Brembo รวมถึงมีการออกแบบการจราจรภายนอกโรงงานและคลังสินค้า ให้ตอบโจทย์การผลิต การขนส่ง และการพิจารณาขยายพื้นที่โรงงานในอนาคต โดยได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ และเริ่มดำเนินงานก่อสร้างแล้วในช่วงไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา

สำหรับโรงงานและคลังสินค้าดังกล่าว จะเป็นฐานการผลิตระบบเบรกสำหรับผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย เริ่มต้นจากผู้ผลิตสัญชาติยุโรปและอเมริกัน โดยทำเลอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ถือเป็นทำเลที่ผ่านมาตรฐานการพิจารณาอย่างรอบคอบในการตั้งโรงงานแห่งใหม่ เนื่องจากอยู่ใกล้ฐานการผลิตของลูกค้าของเบรมโบ้ และใกล้นิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญหลายแห่ง ทำเลดังกล่าวยังช่วยให้เบรมโบ้สามารถเข้าถึงเส้นทางขนส่งและโลจิสติกส์ที่จำเป็น ทั้งทางเรือและทางอากาศอีกด้วย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงไตรมาส 1/2568

Brembo ถือเป็นผู้นำของโลกในการออกแบบและการผลิตระบบเบรกคุณภาพสูง ตลอดจนชิ้นส่วนสำหรับผู้ผลิตระดับท็อปทั้งกลุ่มรถยนต์ส่วนบุคคล รถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์เชิงพาณิชย์ โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งในอิตาลีเมื่อปี 2504 บริษัทมีชื่อเสียงอย่างยาวนานในการส่งมอบนวัตกรรมสำหรับกลุ่มตลาดรับจ้างผลิตสำหรับแบรนด์ (OEM) และกลุ่ม Aftermarket ทั้งนี้ Brembo ยังได้เข้าแข่งขันในรายการแข่งรถที่ท้าทายที่สุดของโลกหลายรายการ และสามารถคว้ารางวัลมาได้กว่า 600 รางวัล

ด้วยความมุ่งมั่นภายใต้ปณิธาน “Turning Energy into Inspiration Brembo เดินหน้าปรับโฉมอนาคตของยานพาหนะด้วยโซลูชั่นที่ยั่งยืน ล้ำสมัย และเป็นดิจิทัล ปัจจุบัน Brembo มีพนักงานมากกว่า 15,600 คน ใน 15 ประเทศ 32 สำนักงานและฐานการผลิต และ 9 ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) โดยมีรายได้มากกว่า 3,849 ล้านยูโรในปี 2566 ถือเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่ต้องการได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด

บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) มุ่งดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Property) อาทิ คลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ศูนย์โลจิสติกส์ สวนอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ระบบการจัดการคลังสินค้าออนไลน์ (Order Fulfillment) และคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone Warehouse) ปัจจุบัน มีการก่อสร้างโครงการคลังสินค้าแล้วประมาณ 385,000 ตร.ม. ในทำเลยุทธศาสตร์ 9 ทำเล ได้แก่ รังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)