• แสนสิริเดินหน้าแผนธุรกิจปี 67 ตามโรดแมปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเติบโตสูงและมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน
  • ชู “เชียงใหม่หนึ่งใน Strategic Location เมืองท่องเที่ยวสำคัญ ติดอันดับเมืองยอดนิยมของชาวต่างชาติวัยเกษียณ แนวโน้มการเติบโตสูงจากแผนดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน/ครั้ง และรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.86 แสนล้านบาทในปี 2567 คาดรายได้จากการท่องเที่ยวเดือนมีนาคมสะพัดกว่า 9 พันล้านบาท และสูงขึ้นต่อเนื่องในเดือนเมษายนที่มีเทศกาลประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่
  • ลั่นกลองเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท ครอบคลุมได้ทุกความต้องการกลุ่มลูกค้าเชียงใหม่ ได้แก่ “เศรษฐสิริ รวมโชคบ้านเดี่ยววิวดอยสุเทพ ชูนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 ราคาเริ่มต้น 20 - 35 ล้านบาท* เปิดชมโครงการครั้งแรก 23 - 24 มี.ค.นี้ ขณะที่ “อณาสิริ พายัพ” Sold out! ปิดการขาย 2 เฟสรวด หรือคิดเป็น 50% ของโครงการ หลังเปิดพรีเซลล์เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
  • ล่าสุดเปิดตัว mekin Haus” (เมคิน เฮาส์) แบรนด์ HAUS โครงการแรกในเชียงใหม่และต่างจังหวัด พร้อมไฮไลท์ “คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่” ชูจุดขายขนาดห้องใหญ่ ดีไซน์สไตล์รีสอร์ท พร้อมส่วนกลางครบครันบนพื้นที่กว่า 1.7 ไร่ อาทิ สระว่ายน้ำยาวถึง 55 เมตร ทำเลโครงการใจกลางเมือง เพียง 200 เมตรเดินได้ถึงเซ็นทรัล เชียงใหม่ ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* เปิดให้ลงทะเบียนพร้อมรับ ส่วนลดสูงสุดถึง 50,000 บาท* ได้แล้ววันนี้

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ แสนสิริเดินหน้าต่อตามแผน NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจผ่านกลยุทธ์ Strategic Location มุ่งเน้นขยายโครงการในเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดใหญ่ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดย “เชียงใหม่” นับเป็นหนึ่งใน Strategic Location ที่สำคัญของแสนสิริ จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเติบโตสูง เห็นได้จากแผนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชียงใหม่ปี 2567 ที่มีเป้าหมายดันนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน/ครั้ง คาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.86 แสนล้านบาท โดยเฉพาะรายได้จากการท่องเที่ยวในเดือนมีนาคมที่คาดว่าจะสะพัดกว่า 9 พันล้านบาท และสูงขึ้นต่อเนื่องในเดือนเมษายนที่มีเทศกาลประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังได้รับอานิสงส์มาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีน ที่คาดว่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเชียงใหม่ยังติดอันดับเมืองยอดนิยมสำหรับชาวต่าวชาติในวัยเกษียณอีกด้วย

ปี 2567 นี้ แสนสิริได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ในเชียงใหม่ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่ ได้แก่ “เศรษฐสิริ รวมโชค” บ้านเดี่ยววิวดอยสุเทพ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีหลังใหญ่ สไตล์ Modern Classic ครบครันทุกฟังก์ชัน รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ ทั้งนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 นวัตกรรมบ้านสีเขียวเพื่อการอยู่อาศัย โดดเด่นด้วยทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่ในทำเล รวมโชค นับเป็นหนึ่งใน CBD ของจังหวัดเชียงใหม่ ราคาเริ่มต้น 20 - 35 ล้านบาท* เตรียมเปิดชมโครงการครั้งแรก วันที่ 23 - 24 มีนาคมนี้ ขณะที่ “อณาสิริ พายัพ” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการเดียว ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าเชียงใหม่ Sold out! ปิดการขาย 2 เฟสรวด หรือคิดเป็น 50% ของโครงการ หลังเปิดพรีเซลล์ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ล่าสุด แสนสิริได้เปิดตัว เปิดตัว เมคิน เฮาส์ (mekin HAUS) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียมบรรยากาศรีสอร์ทแบรนด์ Haus โครงการแรกในจังหวัดเชียงใหม่และในต่างจังหวัด หลังประสบความสำเร็จพัฒนาแบรนด์ HAUS ในกรุงเทพฯ มาแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรก! ในเชียงใหม่ กับ เมคิน เฮาส์ คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่ รับเทรนด์ 'Pet Parent' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก โดยโครงการมาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางและวัสดุภายในพื้นที่อยู่อาศัย ที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยของคนร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง อาทิ Pet Yard สวนสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่ที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง

ทำเลโครงการตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง สามารถเชื่อมต่อได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง เซ็นทรัล เชียงใหม่ (ใกล้โครงการฯ เพียง 200 เมตร) สถาบันการศึกษาชื่อดัง อาทิ โรงเรียนดาราวิทยาลัย (ใกล้โครงการฯ เพียง 1.5 กิโลเมตร), โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย (ใกล้โครงการฯ เพียง 2.2 กิโลเมตร) นอกจากนั้นยังใกล้สถานพยาบาลต่างๆ อย่าง โรงพยาบาลแมคคอร์มิค (ใกล้โครงการฯ เพียง 1.6 กิโลเมตร) รวมถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ใกล้โครงการฯ เพียง 10 กิโลเมตร)

เมคิน เฮาส์ มาพร้อมกับแบรนด์แท็กไลน์ EMBRACE UNHURRIED PLEASURE ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อน โดยโครงการถูกออกแบบด้วยการนำเอาธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่เข้ามาใช้  เช่น Façade ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากไอหมอกบนดอย รวมถึงคอนเซ็ปต์ของดอยและภูเขา มาสะท้อนในการออกแบบพื้นที่สีเขียว พร้อมให้แนบชิดธรรมชาติในใจกลางเมืองได้อย่างเต็มที่ บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1.7 ไร่ พร้อมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกยาว 55 เมตร ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ ห้องทำงานพร้อมเก้าอี้นวด และสวนสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ โครงการมีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 อาคาร จำนวนทั้งหมด 250 ยูนิต รูปแบบคอนโดมิเนียม Low-Rise ที่เน้นห้องขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ความต้องการของชาวเชียงใหม่ที่อยากได้คอนโดมิเนียมกว้างเหมือนอยู่บ้าน โดยมีขนาดตั้งแต่ 34.90 – 89.50 ตร.ม. สำหรับห้องขนาดที่ใหญ่ที่สุด ลงตัวด้วย 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกสมาชิกในครอบครัวทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* ลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท*ได้ที่ https://siri.ly/4glg6Y3

แสนสิริเชื่อมั่นว่า ทุกโครงการของแสนสิริในเชียงใหม่ในปีนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ต่อยอดความสำเร็จของแสนสิริในเชียงใหม่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่คอนโดมิเนียมโครงการแรกที่มีลูกค้ามาต่อคิวก่อนล่วงหน้า 1 วันเพื่อรอจองคิวซื้อคอนโดมิเนียม ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท เชียงใหม่ ขณะที่คอนโดมิเนียมหลายโครงการในทำเลใกล้เซ็นทรัล เชียงใหม่ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีและปิดการขายอย่างรวดเร็ว รวมถึงโครงการเดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่ คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่โครงการล่าสุด ก็สร้างยอดขายไปแล้วถึง 70% ขณะที่โครงการก่อนหน้ายังสร้าง Value-added ให้กับลูกค้า ทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่าโดยมี Yield เฉลี่ยสูงถึง 6% ส่งผลให้แสนสิริเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ที่กลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์แสนสิริ คุณภาพโครงการ ดีไซน์ที่โดดเด่น พร้อมฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ตลอดจนบริการดูแลหลังการขาย โดยแสนสิรินับเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วรวม 15 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนสะสม 14,000 ล้านบาท สามารถพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสนับสนุน “กาแฟเทพเสด็จ” สินค้า GI หนึ่งใน Soft Power ของไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกร และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสประสบการณ์กาแฟเทพเสด็จถึงถิ่นต้นกำเนิดอีกด้วย” นายอุทัย กล่าว