บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ประกาศทุ่มงบ 121,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี (2567-2571) เดินหน้าแผนพัฒนาโครงการ สร้างย่าน สร้างเมืองหลัก-เมืองรอง จากปัจจุบันมีพอร์ตมิกซ์ยูสรวม 20 โครงการ และเพิ่มขึ้นเป็น 25 โครงการในปี 2568 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั่วประเทศ ล่าสุดเตรียมเปิด ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ มูลค่า 8,200 ล้านบาท 30 มี.ค. 67 นี้ ปฐมบทใหม่ของความสุข ประตูสู่ภาคตะวันตก และปี 2568 เตรียมเปิด ‘เซ็นทรัล กระบี่’ มูลค่า 4,500 ล้านบาท เติมเต็ม Retail Lifestyle ให้เมืองท่องเที่ยวระดับโลก

พร้อมพลิกโฉมรีเทลครั้งยิ่งใหญ่ด้วยโครงการระดับ The World’s New Magnitude ปักหมุด Super Prime Locations ทั่วกรุงเทพฯ ใน 5 ปีลงทุน 23,000 ล้านบาท ลงทุนเทียบชั้นศูนย์การค้าใหม่ ปีนี้เตรียมปรับ 6 โครงการ ได้แก่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, บางนา, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, พัทยา และมารีน่า รองรับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในปี 2566 ผลประกอบการสร้าง New High มีรายได้ 46,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 26% รวมถึงด้านทราฟฟิกศูนย์การค้าและยอดขายร้านค้าที่ดีกว่าเป้าหมาย สามารถมอบเงินปันผลสูงที่สุด อีกทั้งการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPNREIT ทำรายได้เพิ่มขึ้น 16% และให้อัตราผลตอบแทน (Yield) 10% อีกด้วย

ในแผน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2571 วางแผนลงทุนทั้งสิ้น 121,000 ล้านบาท โดยในปี 2567 จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม, โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง จับมือกับ International Chain ระดับโลก ทำให้ในภายในปี 2567 จะมีโครงการศูนย์การค้า 42 โครงการ, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ, ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ, และออฟฟิศ 10 โครงการ และในปี 2568 จะเปิดที่จังหวัดกระบี่ ทำให้ปี 2568 มีโครงการมิกซ์ยูสเป็น 25 โครงการ

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า จะมีการลงทุน Asset Enhancement  23,000 ล้านบาท เทียบชั้นการลงทุนเพื่อศูนย์การค้าใหม่ และในปีนี้จะปรับศูนย์การค้าแบบ turnaround ทั้งหมด 6 ศูนย์การค้า ปักหมุดรอบทิศกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คือ ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’ เติมเต็มไลฟสไตล์โซนปิ่นเกล้า รองรับกำลังซื้อที่สูงขึ้น, ‘เซ็นทรัล บางนา’ District Transformation จับกลุ่มลูกค้า Top Tier ย่านบางนา, ‘เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ’ สร้าง Concept Mall ใหม่ตอบโจทย์ Eco Art Lifestyle และ ‘เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์’ Build New Lifestyle Landmark ยิ่งใหญ่ ครบครันที่สุดในย่านสำหรับเมื่องท่องเที่ยวใหญ่ เตรียมปรับโฉม ‘เซ็นทรัล พัทยา’ รองรับกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และ ‘เซ็นทรัล มารีน่า’ ปรับเป็น Outlet Format เพราะมองเห็นโอกาสจากพฤติกรรมการช้อปของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง

ซึ่งในปีนี้เปิด 2 โครงการใหม่คือ ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ ที่ได้สร้างกระแส Talk of the Town ยกระดับเมืองสู่ Gateway to the North และในวันที่ 30 มี.ค. 2567 เตรียมเปิด ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ ปฐมบทใหม่ของความสุข เชื่อมต่อภาคตะวันตกอย่างกาญจนบุรี และราชบุรี โดยมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่สำหรับทุกคนในครอบครัว มีดีไซน์สวยงาม สะท้อนอัตลักษณ์เมืองคือพระปฐมเจดีย์ และในปี 2568 เตรียมเปิด ‘เซ็นทรัล กระบี่’ มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท เติมเต็ม Retail Lifestyle ให้กับกระบี่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก จากการเห็นกำลังซื้อที่ชัดเจนของผู้ประกอบการท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

เตรียมสร้างปรากฏการณ์พัฒนาโครงการ “The World’s New Magnitude” เพราะกรุงเทพฯ ยังมีโอกาสที่จะขยายย่านการค้าและธุรกิจได้อีกหลายมุมเมืองเหมือนโมเดลเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 5 โครงการ รวมพื้นที่กว่า 2.2 ล้าน ตร.ม. ซึ่งตั้งอยู่บน Super Prime Locations รอบกรุงเทพฯ โดยโครงการแรกคือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก Retail Re: Imagined ที่นิยามความหมายใหม่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง โดยในเดือนกันยายนปีนี้ เตรียมพบกับโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ พร้อมเปิดส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park ในปีหน้า 2568

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อมให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการจ้างงานกว่า 120,000 คนทั่วประเทศ และทุกการขยายโครงการใหม่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นหลายพันคนโดยเฉลี่ยมากกว่า 80% เป็นคนท้องถิ่นของเมืองนั้นๆ ด้านแผนงานความยั่งยืนยังคงเดินหน้าตามเป้าหมาย NET Zero 2050 ร่วมกับทุกฝ่ายใน The Ecosystem for All