จากอดีตถึงปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีการขยายตัวในด้านของประชากรและการพัฒนาของภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายทำเลมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปมาก ทำเลที่เป็นศูนย์กลางของธุรกิจก็มีการขยับขยายออกไปจากรอบนอกของสีลม, สาทร, สุขุมวิทชั้นใน

“รัชดา-พระราม9” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองในตอนนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ จากการเชื่อมต่อถนนหลักหลายเส้นทาง อาทิ สุขุมวิท, อโศก, ดินแดง, พระราม9, วิภาวดีรังสิต รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าอย่าง MRT, BTS และ Airport Link แล้ว ยังเป็นทำเลที่เป็นศูนย์รวมออฟฟิศ สำนักงานทั้งเกรดเอและเกรดบี จำนวนมาก

ในช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คอนโดฯ ในทำเลรัชดา-พระราม 9 ได้รับความนิยมสูงจากกลุ่มชาวต่างชาติ อาทิ ชาวจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และยุโรป ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อลงทุน เพราะทำเลรัชดา-พระราม 9 มีชาวจีนนิยมเข้ามาท่องเที่ยวเเละอยู่อาศัยในย่านนี้จำนวนมาก ได้กลายเป็น Little Chinatown หรือเยาวราชแห่งที่ 2 สำหรับคนเจเนอเรชันใหม่ เพราะใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตจีนตั้งอยู่ที่รัชดาซอย 3 และ สถานเอกอัครราชทูตเกาหลี เเละยังมีธนาคารเเห่งประเทศจีน เเละ Duty Free สำหรับคนจีน รวมถึงมีบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ทำให้ดึงดูดคนจีนและเกาหลีเข้ามาในโซนนี้จำนวนมาก สะท้อนผ่านร้านค้า ร้านอาหาร และบริการที่กระจายอยู่ทั่วทำเล มีแหล่งช้อปปิ้งทั้งกลางวัน ทั้งเซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูนทาวน์ , The Street Ratchada สตรีทมอลล์สุดชิค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองตลอด 24 ชั่วโมง มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาเเฟ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง รองรับวิถีชีวิตคนของยุคใหม่ รวมถึงร้านค้ากว่า 200 รายการ

และช่วงกลางคืน เหล่านักท่องเที่ยวจะได้ไปดื่มด่ำกับตลาดนัดยามค่ำคืนอย่าง “ตลาดจ๊อดแฟร์” ที่ตั้งยู่บริเวณหลังห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ตลาดกลางคืนที่สร้างสีสันให้กับชาวกรุงได้มาพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งรวมร้านสตรีทฟู๊ดอาหารในรูปเเบบที่แปลกใหม่ สร้างความตื่นเต้นในกับเหล่านักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับรสชาติอาหารไทย วัฒนธรรม และเสน่ห์ของเมืองไทยในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ทำให้ตลาดจ๊อดแฟร์กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของคนทุกเพศทุกวัย จากผลสำรวจ Grab Travel Insight ประจำปี 2022 "ตลาดจ๊อดแฟร์" ติดอันดับ 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศนิยมเดินทางมาเที่ยว มีร้านค้ามากกว่า 700 ร้าน เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. และการเดินทางสะดวกสบาย ที่สามารถโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีพระราม 9 ทางออก 2 เดินมายังบริเวณหลังห้างเซ็นทรัลพระราม 9 เพียง 100 เมตรก็จะถึงตลาด

 

เดือนมิถุนายน ปี 2566 Terra Research ระบุว่า การเติบโตของราคาคอนโดฯ ย่านรัชดา-พระราม 9 มีโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ประมาณ 12 โครงการ ตรงแยกพระราม 9 ซึ่งมีราคาขายตั้งแต่ 120,000 - 230,000 บาทต่อตารางเมตร และกระจายอยู่ในโซนรัชดาทั้งที่ติดถนนและในซอย ราคาขายอยู่ที่ 75,000 - 142,500 บาทต่อตารางเมตร และมีเปิดตัวใหม่ 2 โครงการ ราคาเปิดตัวเฉลี่ยประมาณ 115,000 บาทต่อตารางเมตร* ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Young Generation ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
ส่วนผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดฯ รัชดา-พระราม 9 จะสร้าง Rental Yield ประมาณ 4.5% - 5.4 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของโครงการ สภาพของโครงการ และขนาดห้อง ส่วน Capital Gain ประมาณ 4% - 5% ต่อปี ราคาซื้อขายมือสองอยู่ที่ 70,000 - 225,000 บาทต่อตารางเมตร

ในอนาคตทำเล รัชดา-พระราม 9 ยังไม่หยุดเติบโต จากเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเข้ามาใหม่ๆ ที่จะทำให้กลายเป็นศูนย์รวมมิกซ์ยูสที่หนาแน่นที่สุดอีกแห่งของกรุงเทพฯ อาทิ AIA รัชดา 2  อาคารมิกซ์ยูสความสูง 31 ชั้น พื้นที่รวม 110,000 ตร.ม., Property Perfect Mixed-use + JODD Fair อาคารมิกซ์ยูส รวมค้าปลีกและสำนักงานบนพื้นที่ 93,000 ตร.ม., ศูนย์วัฒนธรรมโฉมใหม่ ที่จะเป็นพื้นที่แสดงศิลปวัฒนธรรมสู่ระดับโลก ทั้งหมดนี้จะเข้ามาเติมเต็มให้ทำเล “รัชดา-พระราม 9 ” ไม่ได้มีเพียงเเค่ความหลากหลายของอาคารสำนักงานอย่างเดียว เเต่ยังมีเเหล่งไลฟ์สไตล์ เเหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่หลากหลายสไตล์เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกเชื้อชาติในทุกรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นทำเลน่าเข้ามาใช้ชีวิตอย่างแท้จริง