“ซีคอน” สานต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านกว่า 63 ปี ประกาศแผนธุรกิจปี 67 เดินเกมรุกลูกค้า B2B และ B2C ชูกลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ด้วยการขยายโรงงานผลิตโครงสร้างแห่งที่ 2 รองรับความต้องการของตลาด เปิดตัวร่วมมือกับ Partner Brand ชั้นนำในภาคธุรกิจอสังหาฯ พร้อมเผยโฉมแบบบ้านใหม่ซีรีย์ Greenery SEACON มอบไลฟ์สไตล์ชีวิตเมืองที่สัมผัสธรรมชาติได้ในทุกวันมั่นใจปี 67 ธุรกิจโตรวม 10-15%

นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด มองว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 67 มีโอกาสเติบโตจากปีก่อน โดยคาดว่าจะมีรายได้แตะ 14,000 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองตอนนี้ยังมีกำลังซื้ออยู่ โดยเฉพาะบ้านระดับราคาตั้งแต่ 8-10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจากข้อมูลของบริษัท พบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มักจะจ่ายเงินสด โดยไม่ยื่นขอสินเชื่อจากธนาคาร

สำหรับในปี 67 บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 10-15% จากยอดขายในปี 66 ราว 2,000 ล้านบาท โดยจะใช้กลยุทธ์ SEACON FAST FORWARD ผสานการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนด้วยแนวคิด E-S-G ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจใหม่ และพัฒนาศักยภาพทีมซีคอนให้พร้อมสู่การขับเคลื่อนองค์กรที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ให้พร้อมส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้า เพื่อรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ได้เต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ซีคอนเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจ (Business Sustainability) ด้วยกลยุทธ์ ESG ที่คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (E-Environment)  และสังคม (S-Social) รวมถึงการวางระบบกำกับกิจการที่ดี (G-Governance) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยคำนึงถึงการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบองค์รวม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

พร้อมรุกตลาดรับสร้างบ้านผ่านการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้าในออนไลน์ของซีคอนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกปีและสามารถแปลงมาเป็นยอดขายได้เป็นอย่างน่าพอใจ ส่วนตลาดออฟไลน์ ก็มีจัดกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายเพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ซีคอนจะร่วมออกบูธใน 2 งานใหญ่ ประกอบด้วย  งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Focus 2024 จัดขึ้นในวันที่ 17 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อิมแพ็ค ฮออล์ 8 เมืองทองธานี  และงานบ้านและสวน Select 2024 จัดขึ้นในวันที่ 23 – 31 มีนาคม 2567 ที่ไบเทค บางนา

และกลยุทธ์สำคัญ ที่จะนำให้ยออดขายไปตามเป้าหมายปีนี้ คือ การพัฒนาธุรกิจใหม่เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด โดยในปี 2567 มีการสร้างโรงงานผลิตโครงสร้างชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ที่ลำลูกกา คลอง 12 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ เพื่อผลิตชิ้นส่วน โดยกำลังการผลิตได้สูงถึง 120,000 ชิ้นต่อปี  ซึ่งจะสามารถรองรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านกับซีคอน และซีคอน ไอดีแล้ว โรงงานดังกล่าวยังสามารถรองรับลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าบ้านเดี่ยว ลูกค้ากลุ่มธุรกิจรีสอร์ทหรืออพาร์ทเม้นท์ ฯลฯ ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังได้ประกาศร่วมทุน กับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจรับสร้างบ้านมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัมนา

และปีนี้มีการเปิดตัว 6 แบบบ้านใหม่ที่พัฒนาแบบภายใต้แนวคิด Greenery SEACON ด้วยหัวใจหลักของการพัฒนาที่เน้นการนำธรรมชาติมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย โดยมีcourtyard หรือลานกลางบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวเอเชีย ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ปิดกั้นจากความวุ่นวายภายนอก นอกจากจะให้ความสงบบริเวณใจกลางบ้านแล้ว ลานดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ถ่ายเทอากาศและรับแสงธรรมชาติ ทั้งยังเป็นจุด view point ของห้องสำคัญทุกห้องภายในบ้านอีกด้วย

สำหรับแบบบ้านใหม่ในซีรีย์ Greenery SEACON ประกอบด้วย

1. แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่างลงตัว แยกกันเป็นสัดส่วน มาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่งและได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้านที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

2. แบบบ้าน GREENERY 255 สไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็น Tropical ออกแบบเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่มีการจัดฟังก์ชันได้อย่าง ลงตัว แยกกันเป็นสัดส่วนมาพร้อมห้องนอนขนาดใหญ่ ห้องแต่งตัวและห้องน้ำในตัวทุกห้อง และในทุกฟังก์ชันของตัวบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวคอร์ทกลางบ้าน ทำให้ตัวบ้านรู้สึกโล่ง และได้รับแสง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Facade ระแนงหน้าบ้านที่ทำให้บ้านดูมีความโดดเด่น และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยจากสายตาคนภายนอก ซึ่งแบบบ้านหลังนี้ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

3. แบบบ้าน GREENERY 470 แบบบ้าน 3 ชั้นสไตล์ MODERN มีลักษณะเป็นบ้านหน้าแคบแต่ฟังก์ชันภายในยังดูโปร่ง โดดเด่นเรื่องการใช้คอร์ท กลางบ้าน ที่สามารถเข้าถึงธรรมชาติได้เกือบทุกฟังก์ชัน ในส่วนพื้นที่พักผ่อนและทานอาหารใช้ DOUBLE VOLUME ทำให้ดูโปร่ง อีกทั้งยังสามารถใช้คอร์ทเพื่อเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ซึ่งแบบบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

4. แบบบ้าน GREENERY 486 บ้านสไตล์ Modern มีกลิ่นอายความเป็นยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับบ้านที่มีข้อจำกัดที่ดินหน้าแคบ แต่ฟังก์ชันภายในยังรู้สึกโล่งด้วย DOUBLE VOLUME การออกแบบพื้นที่ห้องพักผ่อนและทานอาหารต่อเนื่องเป็นสัดส่วน พร้อมคอร์ทกลางบ้าน เพื่อให้ประโยชน์เรื่องแสง การระบายอากาศของตัวบ้าน ที่เป็นข้อจำกัดของที่ดิน ซึ่งทุกฟังชันหลักในบ้านสามารถสัมผัสกับคอร์ท ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แบบบ้านนี้ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน

5. แบบบ้าน GREENERY 638 แบบบ้านสไตล์ Modern ถูกออกแบบมาเพื่อให้บ้านได้รับแสงและพื้นที่สีเขียวเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง คอร์ทกลางบ้านและหลังบ้านช่วยให้ภายในบ้านรู้สึกโปร่งและเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัด และยังสามารถเข้าถึงได้ในเกือบทุกๆ ฟังก์ชันอีกด้วย แบบบ้านมีฟังก์ชันห้อง ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน

6. แบบบ้าน GREENERY 970 แบบบ้าน 3 ชั้น สไตล์ Modern โดดเด่นด้วย กรอบ Façade ที่ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์มากขึ้น มาพร้อมกับคอร์ทกลางที่เกือบทุกห้องสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยให้ผ่อนคลายและยังช่วยให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมกับ Double space ในส่วนของห้องนั่งเล่นและทานอาหาร ทำให้รู้สึกโล่งสบาย สามารถเข้าถึงสวนได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับของครอบครัวขนาดใหญ่ โดยมีขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน