“แอสเซทไวส์” เป็นปลื้มผลงานในรอบปี 2566 สุดโดดเด่น หลังเปิดโครงการใหม่ทะลุเป้า รวม 15 โครงการ มูลค่า 30,260 ล้าน จากแผนเดิม 12 โครงการ มีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอนมากที่สุดมูลค่ารวม 14,530  ล้านบาท พร้อมขยายพอร์ตเปิดโครงการแนวราบ  มั่นใจปี 2567 ทิศทางอสังหายังสดใส เตรียมโอนอีก 10 โครงการ มูลค่ารวม 19,307 ล้านบาท พร้อมตุนยอด Backlog เดินหน้าสู่การเติบโตที่มั่นคงและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมเศษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว ทั้งจากปัจจัยสำคัญอย่าง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูง ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาในการตัดสินใจ แต่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมาแอสเซทไวส์ ได้มีการวางกลยุทธ์ เพื่อรับมือและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวสูงและแนวราบ ไม่ว่าจะเป็น แคมปัสคอนโดคอนโดมิเนียม, ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายเซกเมนต์ บนทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

“ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของแอสเซทไวส์ โดยบริษัทฯ ได้ปรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้เพิ่มเป็น 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท จากเดิม 12 โครงการ และยังมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนมากที่สุดมูลค่าโครงการรวม 14,530 ล้านบาท โดยโครงการเปิดใหม่ก็สามารถทำยอดขายได้ดีเกินคาดในหลายโครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น โครงการเคฟทาวน์ ไอส์แลนด์, โครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม และโครงการโมดิซ อาวองการ์ด คอนโดไฮไรส์ใหม่ล่าสุด ใกล้รั้วม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ที่สร้างปรากฏการณ์ Sold out วันแรกที่เปิดขาย เป็นต้น นอกจากนี้แอสเซทไวส์ยังมีคอนโดมิเนียมแบรนด์แอทโมซ (ATMOZ) รีสอร์ทคอนโด ที่เปิดขาย 2 โครงการได้แก่ โครงการแอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง และโครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน ที่มีความโดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยครบครันในทุกด้าน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน และคนเมืองที่ต้องการพักผ่อนและเติมเต็มความสุขในทุกวัน รวมถึงการเปิดตัวโครงการ “โมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์” ไลฟ์สไตล์คอนโดระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ที่สามารถจดทะเบียนธุรกิจได้หนึ่งเดียวเพียงแห่งเดียวบนทำเลติดแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 ขณะเดียวกันแอสเซทไวส์ยังได้ขยายพอร์ตไปยังโครงการแนวราบ เปิด 3 โครงการใหม่ ได้แก่  โครงการ เอสต้า รังสิต - คลองสอง บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์สแกนดิเนเวียน , โครงการ ดิ อาเบอร์ ดอนเมือง – แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่สไตล์ครีเอทีฟโมเดิร์น และล่าสุดกับโครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักชัวรี่ที่มาพร้อม Private Pool Villa, Private Lift ทุกหลัง  

ในปี 2567 บริษัทฯ จะมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนอีก 10 โครงการ รวมมูลค่า 19,307 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,057 ล้านบาท และแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,250 ล้านบาท ซึ่งโครงการแนวราบจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ประกอบกับบริษัทฯ มีโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) เมื่อนำมารวมกับโครงการที่จะเสร็จใหม่ในปีหน้า ผนวกกับบริษัทฯ มีตุนยอดรอรับรู้รายได้ (Backlog)  เป็นทุนอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้จะเสริมศักยภาพของบริษัทฯ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและแช็งแกร่งต่อไป” นายกรมเชษฐ์ กล่าว