ยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ เดือนพฤษภาคม 2566 มีจำนวน 6,678 คัน ห ด ตัวที่ -0 .1 %yoy หดตัวชะลอจากเดือนก่อนหน้า (ขยายตัว ที่ 9.24 %mom_sa เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทาง ฤดูกาล) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1) ภาคเหนือ ขยายตัวที่ 9.5 %yoy ขยายตัวได้ดีในจังหวัดเชียงราย ตาก และอุทัยธานี 2) กทม. และปริมณฑล ขยายตัวที่ 4.0 %yoy ขยายตัวได้ดีในจังหวัดสมุทรปราการ นครปฐม และ กรุงเทพฯ 3) ภาคตะวันตก หดตัวที่ -1.6 %yoy แต่ยังขยายตัวได้ดีใน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และรชบุรี 4) ภาคอีสาน หดตัวที่ -2.0 %yoy แต่ยังขยายตัวได้ในจังหวัดนครพนม อุดรธานี และสุรินทร์ 5) ภาคกลาง หดตัวที่ -3.0 %yoy โดยจังหวัดที่มีการขยายตัว ได้แก่ สิงห์บุรี ชัยนาท และ ลพบุรี 6) ภาคใต้ หดตัวที่ -.3.7 %yoy โดยจังหวัดที่ขยายตัวได้แก่ จังหวัด ภูเก็ต ปัตตานี และกระบี่ 7) ภาคตะวันออก หดตัวที่ -9.6 %yoy โดยมี การขยายตัวได้ในจังหวัดสระแก้ว และฉะเชิงเทรา

เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ เดือนพฤษภาคม 2566 มีมูลค่า 5,712 ล้านบาท ตามการลงทุนที่กระจายในหลายภูมิภาคโดยเฉพาะ 1) กทม. และปริมณฑล มีเงินทุนมูลค่า 1,827 ล้านบาท ตามการลงทุนใน จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 884 ล้านบาท โดยมีเงินทุนของโรงงานฉีด พลาสติก ผลิตโลโก้รถยนต์และที่เก็บโลโก้รถยนต์ จำนวน 454.97 ล้านบาท เงินทุนของโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยวิธีการปั๊มหรือกระแทก เคลือบสีและชุบผิวผลิตภัณฑ์ โดยใช้กระบวนการ Plating และ Anodizing และผลิตชิ้นส่วนพลาสติก ด้วยวิธีการฉีดขึ้นรูป จำนวน 198.13 ล้านบาท เป็น สำคัญ 2) ภาคตะวันออก มีเงินทุนมูลค่า 1,430 ล้านบาท ตามการลงทุนใน จังหวัดระยอง จำ นวน 832.46 ล้านบาท โดยมีเงินทุนของโรงงานผลิต พลาสติกแม่สี จำนวน 348.60 ล้านบาท เป็นสำคัญ และ 3) ภาคเหนือ มีเงินทุนมูลค่า 1,413 ล้านบาท ตามการลงทุนในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 747.42 ล้านบาท โดยมีเงินทุนของโรงงานผลิตผลิตน้ำดื่มและทำภาชนะบรรจุ จากพลาสติก จำนวน 664 ล้านบาท เป็นสำคัญ