MQDC บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ประสบภัยจาก “เหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีและสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย” โดยเป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์

โดย MQDC ได้มอบเงินสนับสนุนหน่วยงานละ 100,000 บาทต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (UNHCR ประเทศไทย) และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (UNICEF ประเทศไทย)

ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์องค์กรเพื่อสังคม บริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ MQDC เป็นตัวแทนมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท โดยมีนางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทยเป็นตัวแทนรับมอบ ณ 101 True Digital Park

ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์องค์กรเพื่อสังคม บริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทแม่ของ MQDC เป็นตัวแทนมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท โดยมีนางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ (ขวา) ผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR ประเทศไทย เป็นตัวแทนรับมอบ

นอกจากนี้ ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นายนีล เคนนาร์ด ผู้บริหารฝ่ายระดมทุน องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นตัวแทนผู้รับมอบ ณ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย

ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์องค์กรเพื่อสังคม บริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทแม่ของ MQDC เป็นตัวแทนมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท โดยมีมิสเตอร์นีล เคนนาร์ด (ขวา) ผู้บริหารฝ่ายระดมทุน องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นตัวแทนผู้รับมอบ ณ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของ UNHCR ยังคงอยู่ในพื้นที่ทั้งประเทศซีเรียและตุรกี เพื่อประสานงานส่งมอบความช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเงินสนับสนุนในครั้งนี้จะเป็นอีกกำลังสนับสนุนให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เต็นท์ ผ้าห่มกันหนาว ที่นอน และสิ่งของเพื่อสุขอนามัย ให้แก้ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

ขณะนี้โลกของเรากำลังเผชิญกับการพลัดถิ่นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมากกว่า 103 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยหรือต้องพลัดถิ่นในประเทศบ้านเกิด ทั้งนี้ในปี 2021 ถึง 2022 มีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นถึง 40 สถานการณ์ใน 29 ประเทศ เช่น ยูเครน อัฟกานิสถาน ซีเรีย เยเมน ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา หรือวิกฤตที่ถูกลืม เช่น เวเนซุเอลา ซูดานใต้ เอธิโอเปีย แอฟริกากลาง หรือภัยพิบัติ รวมถึงจำนวนผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในทูร์เคีย-ซีเรียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้วิกฤตการณ์การพลัดถิ่นและการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมซับซ้อนมากยิ่งขึ้น  เจ้าหน้าที่ของ UNHCR ยังคงทำงานอย่างไม่ท้อถอยอยู่ในพื้นที่เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือให้ได้มากที่สุดและการสนับสนุนจากภาคเอกชนคือกำลังสำคัญที่ช่วยให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองต่อวิกฤตผู้ลี้ภัยในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ 

ในขณะเดียวกัน ยูนิเซฟกำลังทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยได้เข้าถึงเด็กและครอบครัวที่ประสบภัยนับล้านคนด้วยการจัดส่งสิ่งของที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย ผ้าห่ม เสื้อผ้า น้ำสะอาด โภชนาการ วัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์  นอกจากนี้ ยูนิเซฟได้ให้เงินสนับสนุนเพื่อซ่อมแซมโรงเรียนหลายพันแห่งที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ควบคู่ไปกับการจัดตั้งศูนย์เด็ก เยาวชนและครอบครัว เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่ปลอดภัย ได้เรียนรู้ต่อเนื่อง และได้รับการเยียวยาด้านจิตใจ  รวมถึงเร่งดำเนินการเพื่อให้เด็กที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง

ทุกวันนี้เด็ก ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสงคราม การสู้รบ โรคระบาด การขาดสารอาหาร และภัยพิบัติ โดยยูนิเซฟกำลังทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในทุกพื้นที่ รวมถึงในที่ ๆ เข้าถึงยากที่สุด เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เด็กและครอบครัวที่ประสบภัย พร้อมมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาในระยะยาว เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มักส่งผลต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

การสนับสนุนจาก MQDC มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะจะช่วยให้ยูนิเซฟสามารถตอบสนองความจำเป็นต่าง ๆ ของเด็กและครอบครัวที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ความช่วยเหลือนี้จะทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่รอดและพร้อมเติบโตอย่างเต็มศักยภาพต่อไป