"อิมแพ็ค" รุกธุรกิจร้านอาหาร ชู 2 กลยุทธ์ปั้นรายได้  ปรับโฉมร้านอาหารบนพื้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพิ่มความแปลกใหม่ ส่งแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ สึโบฮาจิ –ร้านกาแฟเชนฮ่องกง เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ ขยายสาขานอกศูนย์ฯ เพิ่มรายได้จากธุรกิจร้านอาหารทุกรูปแบบทั้ง บริการเคเทอริ่ง เดลิเวอรี่ ตั้งเป้าปี 2569 รายได้ธุรกิจร้านอาหารทะลุ 3,000 ล้านบาท

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจร้านอาหารของไทยเติบโตขึ้น หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก คนในประเทศก็ออกมาใช้ชีวิต จับจ่ายใช้สอย รับประทานอาหารนอกบ้านตามปกติมากขึ้น โดยข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ธุรกิจอาหารในไทยปีนี้จะเติบโต 2.7-4.5% จากปี 2565 หรือมีมูลค่าประมาณ 4.18-4.25 แสนล้านบาท

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทปีนี้ จะเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์หลัก เพื่อสร้างการเติบโต คือ 1.การปรับโฉม การขยายสาขาใหม่ โดยร้านอาหารที่อยู่บนพื้นที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะเน้นการปรับโฉมเป็นหลัก อาทิ ปรับปรุงร้านใหม่  จัดโซนร้านอาหาร เพิ่มพื้นที่นั่งสำหรับพบปะสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน เพื่อรองรับผู้เข้ามาใช้บริการ ร้านอาหารภายในศูนย์ โดยเฉพาะงานระดับอินเตอร์เนชั่นนอล ซึ่งหมุนเวียนเข้ามาจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีเพิ่มขึ้น

ขณะที่การขยายสาขานอกพื้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง จะโฟกัสไปที่ร้านอาหาร 2 กลุ่ม คือกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น  ภายใต้แบรนด์ สึโบฮาจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับจากฮอกไกโด โดยได้เปิดสาขาที่ 7 โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  และกลุ่มร้านกาแฟ เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ จะเน้นเปิดร้านรูปแบบคีออส (Kiosk) มากขึ้นตามพื้นที่อาคาร สำนักงาน

ส่วนที่ 2 การพัฒนาบริการใหม่จากธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น เช่น บริการเคเทอริ่ง บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์แมน แกร็บ ฟู้ดแพนด้าและโรบินฮู้ด เป็นต้น โดยแต่ละร้านจะนำเสนอเมนูที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้การรุกธุรกิจร้านอาหารครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มสีสันให้แก่ผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ๆควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น ตามแผนที่วางไว้ว่าภายในปี 2569 อิมแพ็คจะมีรายได้จากธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท