ปัญหาบ้านดูเก่า โทรม ปล่อยเช่าก็ไม่มีคนสนใจ แถมยังโดนต่อราคาจนไม่คุ้ม เจ้าของบ้านคนไหนที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่คงกำลังปวดหัวอยู่ไม่น้อย และกำลังอยากจะปรับปรุงบ้านหรือที่เรียกว่าการรีโนเวทให้ส่วนต่างๆ ของบ้านที่ดูหม่นหมอง โทรมเก่า จากอายุ การใช้งาน และสภาพอากาศ ให้กลับมาดูใหม่และสดใสเหมือนวันแรกที่เข้าอยู่ แต่จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี? มาลองดูเช็กจุดสังเกตที่ควรดูแลเป็นประจำ และไอเดียรีโนเวทเปลี่ยนบ้านเก่าให้ดูเป็นบ้านใหม่ รับรองว่าทำเสร็จแล้วจะเตรียมขายหรือปล่อยเช่าก็ได้ราคาดี ถูกใจทั้งเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยแน่นอน!

4 จุดที่ควรดูแลให้ดี ถ้าไม่อยากซ่อมบานจนกระเป๋าฉีก

หากคุณตัดสินใจที่จะรีโนเวทบ้านแล้วล่ะก็ คุณจำเป็นต้องสำรวจพื้นที่โดยรอบว่ามีส่วนไหนบ้างที่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือมีบริเวณไหนบ้างที่ต้องซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็นผนังบ้านที่ต้องทาสีภายในใหม่ กระเบื้อง ฝ้าที่ผุพัง หากคุณสำรวจไม่ครบ เมื่อรีโนเวทเสร็จคงหนีไม่พ้นต้องกลับมาแก้ปัญหาที่จุดเดิม

1. สีทาภายใน

บ้านที่บรรยากาศภายในดูหม่นหมอง เพราะผนังบ้านมีสีที่ดูซีดจาง มีคราบรา หรือหลุดลอก ช่างเป็นภาพที่ไม่น่ามองเหลือเกิน ดังนั้นการเลือก สีทาภายใน ที่มีเนื้อสีสดใส ติดแน่นทนนาน รวมถึงสามารถป้องกันความชื้นได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญของบ้านที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะมีคุณสมบัติทำให้บรรยากาศในบ้านดูดีและใหม่อยู่เสมอแล้ว ยังสามารถช่วยปกป้องการเสื่อมโทรมจากการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รอยครูด หรือคราบสกปรก สามารถป้องกันและปกปิดพื้นผิวที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ การเลือกใช้โทนสีต่างๆ ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ตกแต่งบ้านยังมีส่วนช่วยให้บ้านดูสวยงาม น่าอยู่ เรียกได้ว่าสีสันและการเลือกใช้สีทาภายในนั้นสามารถเป็นตัวตัดสินได้เลยว่าบ้านสวยงาม คงทน และน่าอยู่หรือไม่สำหรับผู้เช่า

2. กระเบื้อง

กระเบื้องและพื้นบ้านจัดเป็นองค์ประกอบสำคัญของการรีโนเวทบ้าน ควรวางแผนและเลือกวัสดุที่มีคุณภาพเพราะหากต้องซ่อมภายหลังจะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมหาศาล และลงยาแนวกระเบื้องเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นซึมเข้าไปโครงสร้างพื้นจนเสียหาย ควรเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับบริเวณต่างๆ ของบ้าน เพราะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรับน้ำหนักในบริเวณที่มีการสัญจรมาก เช่น ทางเดินหรือห้องนั่งเล่น ความคงทนต่อการสึกกร่อน รอยขีดข่วน ความชื้น และสารเคมีที่รุนแรง นอกจากคุณภาพแล้ว การเลือกกระเบื้องทั้งลวดลายและสียังมีผลต่อความสวยงามและบรรยากาศของบ้านโดยรวมด้วย

3. ฝ้า และไฟเพดาน

ส่วนที่ต้องระวังเรื่องความชื้นอีกที่ก็คือ ฝ้าเพดาน เพราะหากมีน้ำรั่วซึม นอกจากจะทำให้ฝ้าต้องรับน้ำหนักน้ำแล้ว อาจมีความเสียหายต่อเนื่องไปยังโครงสร้างบ้านส่วนอื่นๆ รวมถึงเป็นแหล่งเพาะเชื้อราและโรคไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ การติดตั้งเพดานยังต้องคำนึงถึงเรื่องอันตรายจากไฟฟ้าด้วย เพราะมีการเดินระบบไฟและติดตั้งไฟเพดานในทุกพื้นที่ของบ้าน

4. เฟอร์นิเจอร์

การเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน สามารถสร้างความเสียหายให้บ้านคุณได้อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง จริงอยู่ที่เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นั้นย่อมมีการเสื่อมโทรมลงจากการใช้งานเป็นปกติ แต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างบ้าน เช่น พื้นเสียหาย หรือผนังและเพดานมีรอยครูด รวมถึงยังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์และแมลง เช่น ตัวเรือดหรือไรฝุ่น หากเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งานตั้งแต่แรก ย่อมช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่การซ่อมแซมโครงสร้างอื่นๆ ของบ้านด้วย

สิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องไม่พลาดคือ ควรหมั่นดูแลและเลือกวัสดุให้คงทนเป็นพิเศษ รวมไปถึงเลือกใช้สีทาภายในที่ทำให้บ้านดูใหม่อยู่เสมอ หากเจ้าบ้านคนไหนมีแพลนจะรีโนเวทบ้านปล่อยเช่าเร็วนี้ สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ TOAGROUP ตัวจริงเรื่องสีทาบ้าน ที่ได้รวบรวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยเคล็ดลับการแก้ปัญหาบ้าน และไอเดียแต่งบ้านสไตล์ต่างๆ มากมายสำหรับคนรักบ้าน