หากพูดถึงทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้เพียงไม่กี่นาที หลายคนคงต้องนึกถึง “อ่อนนุช” อย่างแน่นอน ด้วยความเป็นทำเลใกล้เมืองที่อยู่ติดกับทองหล่อ-เอกมัย และยังเชื่อมต่อกับ สีลม-สาทร-สยาม ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ย่านนี้จึงเป็นทำเลตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนที่มองหาที่อยู่อาศัยใกล้เมือง

ด้วยศักยภาพของทำเล ประกอบกับราคาที่อยู่อาศัยที่จับต้องได้ ย่านนี้จึงมีคอนโดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ PARK 168 Onnut 19 คอนโดใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีความน่าสนใจอย่างไร เราจะพาไปเจาะ 7 เหตุผล ทำไม PARK 168 บนทำเลอ่อนนุชนี้ ถึงเป็นคอนโดที่ใช่และต้องมีไว้ครอบครอง

 

1. อยู่อ่อนนุชจะไปไหนก็ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าหรือจะขับรถก็ชิล

อ่อนนุช เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายด้านการเดินทางเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเข้าสู่ใจกลางเมืองหรือออกนอกเมืองฝั่งตะวันออกก็ไปได้ง่าย นั่งรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานีก็สามารถไปยังย่านธุรกิจสำคัญได้ และด้วยความที่รถไฟฟ้าเส้นหลักพาดผ่านทำเล การเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องยาก ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนในกรุงเทพฯ มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

หากเดินทางด้วยรถยนต์ ทำเลอ่อนนุชก็สามารถเชื่อมต่อกับทำเลอื่นได้อย่างง่ายดาย สามารถทะลุซอยเล็กเพื่อเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญอย่าง ถ.สุขุมวิท, ถ.ศรีนครินทร์, ถ.พระราม 4 และถ.ริมทางรถไฟปากน้ำ อีกทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน 2 สาย ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (บางนา-ดาวคะนอง-แจ้งวัฒนะ) และใกล้ทางพิเศษฉลองรัช (พระราม 9-อาจณรงค์) หรือถ้าเลือกวิ่งเส้นอ่อนนุช-วงแหวน ก็สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญของกรุงเทพฯทั้งถ.บางนา-ตราดและถ.วงแหวนรอบนอก

 

2. แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ เลือกใช้ชีวิตได้ตามที่ต้องการ

นอกจากศักยภาพทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกแล้ว อ่อนนุชยังรายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ ตลาดสด, Supermarket, Community mall, Lifestyle mall อย่าง ตลาดสดอ่อนนุช, Big C อ่อนนุช, Tesco Lotus, Makro Food Service, People Park, Habito Mall และ Century The Movie Plaza

ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย มีอาหารหลากหลายรูปแบบให้เลือกแบบไม่ซ้ำ ตั้งแต่ร้านอาหารตามสั่ง ไปจนถึงบุฟเฟต์, เบเกอรี่, ร้านชาบู, ร้านปิ้งย่าง, คาเฟ่ และร้านอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ เลือกได้ที่ตามต้องการแบบไม่ต้องออกไปนอกทำเลเลยก็ว่าได้

 

3. ทำเลแห่งการเติบโต มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นทุกปี

ด้วยศักยภาพในเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ของอ่อนนุช ทำให้เกิดการขยายตัวของแหล่งงาน มีการพัฒนาอาคารสำนักงานและโครงการ Mixed-use มากมายในทำเล อ่อนนุชจึงมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนได้จากราคาประเมินที่ดินถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุชที่มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในรอบปีปัจจุบัน 2559-2562 อยู่ที่ 220,000 บาทต่อตารางวา เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 83% หรือเฉลี่ย 20% ต่อปี จากรอบปีก่อน 2555-2558 ที่มีราคาประเมิน 45,000-120,000 บาทต่อตารางวา

 

4.“อ่อนนุช” ทำเลใกล้เมือง ราคาจับต้องได้

หากจะหาทำเลคอนโดที่ใกล้เมืองในราคาที่จับต้องได้ คงไม่มีทำเลไหนเหมาะเท่า”อ่อนนุช”อีกแล้ว ด้วยราคาขายเฉลี่ยทำเลอ่อนนุชเฉลี่ยอยู่ที่ 105,000 บาทต่อตารางเมตร และเมื่อแบ่งราคาตามเส้นถนนแล้ว โซนอ่อนนุชที่ติดรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิท มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 125,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนโซนอ่อนนุชในซอยสุขุมวิท 77 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 84,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ และล่าสุดที่ PARK 168 On Nut 19 กำลังจะเปิดตัวใหม่ มีราคาเริ่มต้นเพียง 1.87 ล้านบาท* หรือ 79,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในทำเล ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาคอนโดที่คุ้มค่าสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ

 

5. คอนโดอ่อนนุชปล่อยเช่าได้ผลตอบแทนดี

นอกจากจะเป็นทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแล้ว อ่อนนุชยังเป็นทำเลที่น่าจับตามองในแง่การลงทุนอีกด้วย คอนโดย่านอ่อนนุชลงทุนปล่อยได้ผลตอบแทน Rental Yield เฉลี่ย 4.2%-6% ต่อปี มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 400-530 บาท/ตารางเมตร/เดือน อัตราค่าเช่าขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ห้องแบบ Studio ค่าเช่าอยู่ที่ 6,000-12,000 บาทต่อตารางเมตร, 1 ห้องนอน ค่าเช่าประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อตารางเมตร, 2 ห้องนอน ค่าเช่าตั้งแต่ 16,000-30,000 บาทต่อตารางเมตร และ 3 ห้องนอน ค่าเช่าอยู่ที่ 20,000-45,000 บาทต่อตารางเมตร ด้านผลตอบแทนจากการถือครองคอนโด Capital Gain เฉลี่ย 3.5%-4.8% ต่อปี โดยมีราคาขายห้องมือสองเฉลี่ย 73,000-130,000 บาท/ตารางเมตร

 

6. คอนโดสไตล์ญี่ปุ่นที่ออกแบบเพื่อความสมดุลชีวิตและธรรมชาติ

PARK 168 On Nut 19 โครงการใหม่สไตล์ญี่ปุ่นที่ออกแบบมาในคอนเซปต์ “LET'S TAKE A BREATH หยุดพักหายใจให้เต็มปอด” เพราะวันนี้เราห่างเหินกับธรรมชาติมากจนแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก โครงการจึงถูกออกแบบมาให้อยู่อาศัยท่ามกลางความร่มรื่นในกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น ให้เป็นพื้นที่ความสุขให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย เปลี่ยนความเร่งรีบให้กลายเป็นความสงบความร่มรื่น ท่ามกลางบรรยากาศ Japanese Garden โอบล้อมความสุขได้ตลอดเวลา พร้อมแนวคิด GREEN DESIGN CONCEPT ผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่

  • Green Design ที่ใส่ใจในทุกกระบวกการของการออกแบบ ทั้งการวางผังตึกทิศทางแดดลม การเพิ่ม Sun Shade Screen เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลางมีการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่าง Eco-Lobby ที่เป็น Semi outdoor เปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติ ให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก
  • Green Community การเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวกับเมือง เชื่อมโยงกับพื้นที่ธรรมชาติและชุมชน อาทิ การลดขยะในชุมชน ร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดคลอง
  • Green Technology นำเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในโครงการเพื่อลดพลังงาน ทั้งระบบ Solar Cell, EV Charger และระบบบำบัดน้ำเสีย 

PARK 168 On Nut 19 เป็นโครงการ Lowrise 8 ชั้น 3 อาคาร บนพื้นที่ 7 ไร่ 1 งาน 96 ตารางวา จำนวน 761 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ 30% มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันพร้อมรองรับการใช้ชีวิต ได้แก่  Main Entrance : Torii Gateway, Juristic Person, Gateway Tunnel, Indoor J Park Living, Outdoor J Park Living, Dry Garden :  Karesansui, Fitness Zone (ห้องออกกำลังกายขนาด ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 13 เครื่อง), Upper Terrace, Zen Pavilion, Swimming Pool (สระว่ายน้ำระบบ เกลือ), The Moon Bridge, The Tea Pavilion, J park living, Tea Garden :  Chaniwa, Sun bed Deck, EV Charger, Green Technology Solar Cell

 

7. PARK 168 Onnut 19 มาพร้อม Lay out ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย

สำหรับยูนิตพักอาศัยจะเป็นห้องสตูดิโอและ 1 ห้องนอน มีขนาดตั้งแต่ 24-34.5 ตารางเมตร แต่ละห้องก็จะมีฟังก์ชันพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ห้อง Convertible ขนาด 24 ตร.ม. จะเป็นห้องตอนลึก มีครัวปิดด้านหน้าเหมาะสำหรับทำครัวเบาๆ มีมุมทำงานติดหน้าต่าง เหมาะสำหรับอยู่อาศัยคนเดียว Convertible ขนาด 28 ตร.ม. จะเป็นห้องตอนลึก แยกโซน Bedroom/Living/Kitchen ไว้อย่างชัดเจน มีมุมโต๊ะทำงานติดหน้าต่าง นั่งทำงานแบบรับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น Deluxe ขนาด 34 ตร.ม. มีการแบ่งฟังก์ชันพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น มีครัวปิดติดระเบียง ระบายอากาศได้ดีเหมาะสำหรับทำครัวหนัก พื้นที่ Living ค่อนข้างกว้างขวาง วางโซฟาได้ถึง 4 ที่นั่ง หรือจะปรับเป็น 2 ที่นั่งแล้วทำเป็นมุมทานข้าว 2 ที่นั่งก็ได้ มีมุมโต๊ะทำงานแนวยาวในห้องนอน นั่งทำงานได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัด SUITE ขนาด 34.5 ตร.ม. จะเป็นห้องหน้ากว้าง รับแสงจากธรรมชาติได้ดี ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง การแบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็นสัดส่วน แบ่ง Service Zone กับ Private Zone ได้อย่างชัดเจน สามารถอยู่อาศัยได้ 2 คน แบบสบายๆ ไม่อึดอัด

เลือกคอนโดที่ใช่ บนทำเลที่ใกล้เมือง ในราคาที่จับต้องได้ ได้ที่ PARK 168 On Nut 19 คุ้มค่าไม่ว่าจะซื้อไว้อยู่เองก็ดี ลงทุนปล่อยเช่าก็ได้ผลตอบแทนดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.87 ล้านบาท* หรือ 79,000 บาทต่อตารางเมตร ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://bit.ly/3D80sos  หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 02-689-6888