“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ผนึกกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากฮ่องกง “โลฟิส” เดินหน้าร่วมทุนเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ คอนโด “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น” มูลค่า 2,600 ล้านบาท และบ้านจัดสรร “บริทาเนีย อมตะ-พานทอง” มูลค่า 2,000 ล้านบาท หนุนมูลค่าโครงการร่วมทุนสะสมระหว่างกัน 5,800 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้จับมือกับ บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในเครือ โลฟิส กรุ๊ป กลุ่มทุนใหญ่ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกง ร่วมทุนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ มูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท นับเป็นการส่งสัญญาณบวกในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการขยายตัวของเขตเมือง จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การลงทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่จะกลายเป็นแหล่งดึงดูดอุตสาหกรรมต่างๆ จากทั้งในและต่างประเทศ โลฟิสเองเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว และเชื่อมั่นในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีแผนการเติบโตแบบ Origin Multiverse ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯและ EEC จึงทำให้เกิดความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง” นายพีระพงศ์ กล่าว

ที่ผ่านมา เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โดยบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ได้ร่วมทุนกับ บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด มาแล้ว 1 โครงการ ได้แก่ โครงการแกรนด์บริทาเนีย คูคต สเตชั่น มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เมื่อนับรวมกับ 2 โครงการใหม่แล้ว ส่งผลให้เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และโลฟิส มีมูลค่าโครงการร่วมทุนสะสมระหว่างกันอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท โดยทั้งเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และโลฟิสจะยังคงพิจารณาโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมทุนกันเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายเฉิน ซ่าน เจี๋ย กรรมการผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงต่อการลงทุนในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานด้านระบบสาธารณูปโภคที่แข็งแกร่ง มีระบบการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการร่วมทุนกับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทที่ได้ร่วมพัฒนาโครงการกับผู้ประกอบการระดับแถวหน้าของประเทศ ที่มีวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจชัดเจน ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้า การพัฒนาแบรนด์ ความเข้าใจ Insight ของผู้บริโภค ความเข้าใจทำเล และมีขีดความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญให้เราไว้วางใจในการร่วมทุนกับเครือออริจิ้น เพิ่มอีก 2 โครงการ และพร้อมพิจารณาร่วมทุนในโครงการอื่นๆ เพิ่มเติม” นาย เฉิน ซ่าน เจี๋ย กล่าว

สำหรับโครงการออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High rise 28 ชั้น 1 อาคาร มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท จำนวน 1,034 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต มีห้องพักแบบ Simplex 1 ห้องนอน ขนาด 25.5 ตร.ม. พร้อมทั้งมีฟังก์ชัน Smart Closet ให้ภายในห้อง และ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 34.9-44 ตร.ม. พิเศษด้วยห้อง Duo space ห้อง 2 ชั้น รูปแบบใหม่ เพดานสูง 4.2 เมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด Start up Start Here เพื่อกลุ่ม Gen Y อาทิ สวนขนาดใหญ่หน้าโครงการ พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 7 ชั้น , สระว่ายน้ำ ยาว 30 เมตร retail, cafe, origin health care , fitness , club house เดินทางสะดวกโดยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานี MRT สิรินธรใกล้เพียง 350 เมตร เชื่อมต่อหลายเส้นทาง ระหว่างฝั่งธนบุรีและฝั่งนคร เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างง่าย รวมถึงใกล้โรงพยาบาล สถานศึกษา และแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย อาทิ รพ.ศิริราช มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

โครงการบริทาเนีย อมตะ-พานทอง (Britania Amata – Phanthong) เป็นโครงการบ้านจัดสรรประกอบด้วย ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในสไตล์ Modern British จำนวน 440 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท  ในคอนเซ็ปต์ Executive Village สังคมเหนือระดับ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต ภายใต้แนวคิด Human Centric โดดเด่นด้วยงานออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ คลับเฮาส์หรู ขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co–Working Space, สวนสาธารณะขนาดใหญ่, Double Gate Security (ระบบประตูเข้า-ออกโครงการ 2 ชั้น), Key Card Access, กล้องวงจรปิด CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี และ ทางด่วนบูรพาวิถี รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้ง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงพยาบาล และ สถานศึกษา ราคาเริ่มต้น 2.99-7 ล้านบาท

.

สำหรับ บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทในเครือ โลฟิส กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มโรงแรม กลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี กลุ่มด้านนันทนาการและการศึกษา มีสาขากระจายตามหัวเมืองใหญ่รวม 7 สาขา ประกอบด้วย ฮ่องกง เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ กวางโจว บูดาเปสต์ ดุสเซลดอร์ฟ และกรุงเทพฯ