นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) CMC เปิดเผยว่า “ถือเป็นอีกปีที่ตอกย้ำความเชื่อมั่นในการก้าวผ่านทุกสถานการณ์ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ COVID 19 อย่างต่อเนื่อง แต่ผลประกอบการของ CMC ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังสามารถโตต่อเนื่องปีที่ 3 ด้วยความแข็งแกร่งด้านการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการตลาดลดลง ส่งผลให้ปีที่ผ่าน CMC กวาดรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการแตกไลน์ธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมทัพ ทำให้ภาพรวมของบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,212 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) สูงกว่าปีก่อน 21% ประกอบด้วยรายได้การขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 1,050 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทมีกำไรสุทธิที่ 44 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 2,130 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังมีห้องว่างรอการขาย (Inventory) รวมมูลค่ากว่า 4,511 ล้านบาท ขณะที่มีโครงการใหม่เปิดตัวปีนี้ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6 พันล้านบาท”ทางด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท รวมมูลค่ามากกว่า 41 ล้านบาท เนื่องจากบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) มีกำไรจากงบเดี่ยว 69 ล้านบาท พร้อมกับเตรียมออกหุ้นกู้เพื่อขยายฐานลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทโตยั่งยืน

ทั้งนี้ การแตกไลน์ธุรกิจใหม่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในปี 2564-2565 ถือเป็นตัวแปรสำคัญหนุนรายได้รวมบริษัทฯ ให้โตแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและการบริการ บริหารโดย C2H มีทิศทางรายได้โตสดใสเป็นตามที่คาดไว้ พร้อมลุยคอลแลปส์กับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมและการบริการที่ลูกค้าไว้วางใจเป็น “First Choice” ส่วนธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ บริหารโดย Teledoc ได้รับการตอบรับอย่างดีจากการนำเข้าชุดตรวจคัดกรองโควิด 19 แบบ ATK เตรียมเดินหน้าเฟสถัดไปนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์รายการอื่นๆ เช่น เครื่องกำจัดฝุ่น PM 2.5, วัคซีนไข้หวัดใหญ่, สายยางทางการแพทย์ เป็นต้น ส่วนเฟสถัดไปจะเริ่มลงทุนด้านการแพทย์ที่มีความเฉพาะทาง รวมทั้งมีธุรกิจบริการเข้าเสริมทัพรายได้รวมของบริษัทให้โตขึ้น ได้แก่ ธุรกิจด้านงานเช่าและบริการอุปกรณ์รับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจรับบริการทำความสะอาด ซึ่งภายในปี 2566-2567 จะเห็นภาพรวมของธุรกิจใหม่ในทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม CMC ยังคงเดินหน้าพัฒนาเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์คุณภาพการอยู่อาศัย โดยปรับการบริหารงานก่อสร้างพัฒนาโครงการสีเขียว จัดโครงสร้างการวิเคราะห์ต้นทุนการออกแบบและก่อสร้าง โดยเน้นคุณภาพการอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี รักษาสมดุลการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างมีความสุขตอบสนองการใช้ชีวิตในยุค Next Normal พร้อมกับนำร่องนำนวัตกรรมเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้พักอาศัยเข้ามาสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับโครงการใหม่ 6 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในปี 2565 รวมมูลค่าโครงการกว่า 6 พันล้านบาท โดยเน้นโครงการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใกล้ชิดธรรมชาติเข้าถึงกลุ่มเรียลดีมานด์รักสุขภาพ ครอบคลุมพื้นที่สุขสวัสดิ์ รังสิต พระราม2 ปากน้ำ-สมุทรปราการ นวมินทร์ และปิ่นเกล้า

จากปรับแผนกลยุทธ์จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่กับพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาวะแวดล้อมที่ดี ทั้งสุขภาพใจและสุขภาพกายให้แก่ลูกบ้านและสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการสร้างมิติใหม่ของ CMC และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย” นายแพทย์วิเชียร กล่าวทิ้งท้าย