ออริจิ้น” เปิดพรีเซลล์โครงการ “โซ ออริจิ้น พหลฯ 69 สเตชั่น” เผยกระแสตอบรับดีเกินคาด ชี้โครงการช่วยสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับในทุกมิติ พร้อมเปิด 4 หมัดเด็ดพิชิตใจผู้บริโภค “ทำเลเด่น–ส่วนกลางใช่–ดีไซน์โดน–บริการระดับ 5 ดาว” ภายใต้สโลแกน “So Origin...So Me ชีวิตรูปแบบใหม่…ที่เป็นคุณ” ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการกลุ่มสมาร์ทคอนโดมิเนียม ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดพรีเซลล์ โครงการ โซ ออริจิ้น พหลฯ 69 สเตชั่น (SO Origin Phahol 69 Station) ภายใต้ธีม “SO PROUD…SO ME มากกว่าคอนโด...เหนือกว่าทุกการอยู่อาศัย” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงาน พร้อมชมห้องตัวอย่างจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ซึ่งโครงการจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2565 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 4/2567

So Origin ถือเป็นนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตในแบบที่คาดไม่ถึง เราเชื่อว่าการออกแบบที่อยู่อาศัย เพียงแค่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คงไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตในอนาคตแบบ Me Generation อีกด้วย ดังนั้นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ So Origin จึงถูกพัฒนาภายใต้สโลแกน So Origin… So Me ชีวิตรูปแบบใหม่…ที่เป็นคุณ แต่ยังคงหัวใจหลักในการพัฒนาไว้คือ ทำเล-ส่วนกลาง-งานดีไซน์ จะต้องมีความโดดเด่นช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินในอนาคต โดยจะเสริมเรื่องของงานบริการเข้ามา เพื่อให้สอดรับกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ให้มากขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

โซ ออริจิ้น พหลฯ 69 สเตชั่น (SO Origin Phahol 69 Station) มีมูลค่าโครงการรวม 1,760 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม Mid Rise สูง 14 ชั้น ประกอบด้วย ห้องชุดพักอาศัย 520 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ห้องชุดพักอาศัยเริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 25.30-34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท โดดเด่นด้วยทำเล พื้นที่ส่วนกลาง งานออกแบบ และงานบริการ โดยโครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางกรุงเทพฯตอนเหนือ (Capital of North Bangkok) ติดถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก เดินทางสู่ย่านธุรกิจได้สะดวกและรวดเร็ว ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด เพียง 50 เมตร แวดล้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคชั้นนำ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ถูกออกแบบให้คำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เน้นฟังก์การใช้งานจริง เช่น ห้อง Studio สำหรับ Live สดขายของหรือทำคอนเทนต์ ซึ่งภายในห้องได้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้บริการพร้อมใช้งาน, ห้อง Co-Passion สำหรับนั่งทำงาน พูดคุย, Meeting Room, Private Lounge, Fitness โดย Highlight ที่ชั้น Rooftop มีสวนและสระว่ายน้ำที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบด้าน ในส่วนของงานสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายในอาคารได้นำสไตล์ Modern classic มาผสมผสานกับเส้นโค้ง มาตกแต่งเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว แต่คงไว้ซึ่งความเรียบ หรูหรา ใช้เส้นสีเข้มตัดกับผนังโทนสีอ่อน ขณะที่ห้องชุดพักอาศัยจะเน้นความโปร่งสบาย ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ ผนังห้องนอนเป็นกระจก ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในห้องได้ทั่วถึง

ด้าน นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า หัวใจสำคัญของโครงการนี้อีกหนึ่งเรื่องก็คือ งานบริการ โดยบริษัทจะเข้ามาดำเนินการดูแลในส่วนของงานด้านบริการต่างๆ ในระดับ HOTEL SERVICE BY HAMPTON โดยทีมงานระดับมืออาชีพในทุกๆแพลตฟอร์มการอยู่อาศัย อาทิ Concierge Service พร้อมดูแลเทคแคร์ลูกบ้าน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าโครงการ, BUTLER SERVICE บริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะช่วยดูแลสัมภาระให้ลูกบ้าน, HOUSEKEEPING SERVICE แม่บ้านส่วนตัวช่วยดูแลห้องแบบครบวงจร , Cleaning Service บริการทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้งฟรี ตลอดระยะเวลา 1 ปี, WELLNESS PACKAGE รีเฟรชร่างกายด้วย ANTI-AGING PROGRAM,MASSAGE SERVICE โปรแกรมนวดและ สปาระดับพรีเมียม, TELECONSULT ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพกับโรงพยาบาลชั้นนำทางออนไลน์ เสมือนมีผู้เชี่ยวชาญ คอยให้การดูแลทางด้านสุขภาพใกล้ตัวลูกบ้านอยู่เสมอ