“แสนสิริ”  ตอกย้ำเจตนารมย์การให้ความสำคัญเด็กอย่างยั่งยืน ประกาศพันธกิจใหญ่ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ด้วยการออกหุ้นกู้ 100 ล้านบาท เพื่อสนับสนุน “กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา” (กสศ.) สร้างพลังบวก ผลักดันการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กให้ได้รับความเท่าเทียมในการศึกษา ปักหมุดโครงการแรก ที่ “ราชบุรี” ตั้งเป้าให้เด็กหลุดระบบการศึกษาต้องเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปี

          นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แสนสิริ มีแนวคิดในการช่วยเหลือสังคม ให้ความสำคัญในเรื่องลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียม และการช่วยเหลือเด็กอย่างยั่งยืนผ่านโครงการต่าง ๆ มากกว่า 17 โครงการ

            ซึ่งในปีนี้ ก็มีพันธกิจใหญ่ ที่จะสนับสนุน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. เพื่อ“สร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา” ผ่านโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน ระยะยาว 3 ปี

                  โดยเป้าหมายของโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ครอบคลุมการพัฒนาในทุกด้านทั้งการเข้าถึง คุณภาพการศึกษา และความยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าให้เด็กต้องอยู่ในระบบการศึกษาในช่วงวัยภาคบังคับ (ป.1-ม.3) และเด็กที่ถึงเกณฑ์ ต้องพร้อมเข้าเรียน ป.1 ได้ 100%

            เริ่มโครงการแรกที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งปัจจุบันมีเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาอยู่ประมาณ 10,000 คน และมีปัญหาความเหลื่อมล้ำในการศึกษาจากภูมิศาสตร์จังหวัดติดชายแดน

 

            สำหรับแผนดำเนินการเริ่มตั้งแต่ปี 2565 นำร่องใน 3 อำเภอ ได้แก่ สวนผึ้ง จอมบึง และบ้านคา จากนั้นในปี 2566 จะขยายไปอีก 4 อำเภอ และในปี 2567 อีก 3 อำเภอ เพื่อช่วยเหลือทั้งเด็กปฐมวัย และเด็กนอกระบบกว่า 11,200 คน ที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาในจังหวัดราชบุรีให้เป็น “ศูนย์” รวมทั้งสนับสนุนทุนทรัพย์ให้เด็กได้เตรียมความพร้อมก่อนเข้าระบบการศึกษา (อัตรา 4,000 บาทต่อคน) จากนั้นจึงส่งต่อสู่กลไกของจังหวัดสานต่อการทำงานในระดับพื้นที่ ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป

            โดย “แสนสิริ” เตรียมออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุน 100 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการ โดยการรันตีรับผลตอบแทนที่ 3.20% ต่อปี รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และนับเป็นครั้งแรกของหุ้นกู้ ที่มากกว่าการลงทุน เพราะนอกจากจะได้รับผลตอบแทนที่เป็นเงินแล้ว ยังเป็นการลงทุนในอนาคตเด็ก ให้เด็กได้เข้าสู่ระบบการศึกษา ไม่มีใครหลุดจากระบบการศึกษาและโดนทิ้งไว้ข้างหลัง

สำหรับหุ้นกู้ จะเปิดเปิดจองวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 8.30 น. ผ่าน SCB Easy App เท่านั้น

 

 

          ดร.ไกรยส  ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กสศ. เป็น “กลไกเหนี่ยวนำความร่วมมือ” ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการช่วยลดปัญหาความเหลื่อมลํ้าทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยการทำงานของ กสศ.เจาะกลุ่มเด็ก เยาวชนจากครัวเรือนยากลำบากร้อยละ 15 ล่างสุดของประเทศ

            ซึ่ง กสศ. มีความยินดีที่แสนสิริเล็งเห็นถึงความสำคัญและเข้ามาช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทั้งแผนการสนับสนุนเงินทุนเพื่อช่วยผลักดันโครงการที่ กสศ. และ หน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น และเอกชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ผ่านโครงการ “Zero Dropout ซึ่งหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงระบบและการแก้ปัญหายั่งยืน เป็นต้นแบบของประเทศ สามารถต่อยอดขยายผลได้ในอนาคต  และที่สำคัญคือการสร้างช่องทางให้ทุกคนสามารถเป็นหนึ่งในการช่วยเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยให้เยาวชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคต่อไป

 

            สำหรับหุ้นกู้แสนสิริที่จะเสนอขายในครั้งนี้มีมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 100 ล้านบาท อายุ 3 ปี อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BBB+ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปบริจาคให้แก่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาภายใต้โครงการ Zero Dropout ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ให้คนไทยสามารถร่วมสร้างประวัติศาสตร์เพื่อเปลี่ยนระบบการศึกษาไทยให้เด็กหลุดระบบการศึกษาเป็น “ศูนย์” ไปด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนจากการลงทุน 3.20% ต่อปี รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้  แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตเด็ก ให้เด็กได้เข้าสู่ระบบการศึกษา ไม่มีใครหลุดจากระบบการศึกษาและโดนทิ้งไว้ข้างหลัง

            โดยเงิน 100 ล้านบาทจากการระดมทุนจะบริจาคให้ กสศ. ทั้งหมด เพื่อปั้น “ราชบุรีโมเดล” เป็นเมืองต้นแบบให้เด็กใน จ.ราชบุรี หลุดจากระบบการศึกษาเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปีให้ได้ กำหนดเปิดจองซื้อ วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 8.30 น. ผ่าน SCB Easy App เท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการ Zero Dropout https://blog.sansiri.com/zero-dropout-main/ หรือโทร 1685